สั่งระดมทุกพื้นที่หาคนร้ายปล้นรถขนเงิน ผู้การฯเมืองชลยัน ใครชี้เบาะแสจนจับ’เจริญ’ได้ รับไป 2 แสน

วันที่ 29 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์พร้อมอาวุธปืนสั้นจี้ นายวุฒิชัย ประกอบสุข และนายบรรหาร เที่ยงธรรม พนักงานของบริษัท สยาม แอดมินนิสเทรทีฟ แมเนจเม้นท์ จำกัด (แซมโก้) ได้เงินไป 5,370,000 บาท ขณะกำลังจะนำเงินใส่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขา 2605 หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี หลบหนีไปอย่างลอยนวลเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ภายหลังจาก พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมามอบนโยบายในการติดตามตัวคนร้าย ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี และกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 โดยการนำทีมของ พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก.สส.ภ.2 ได้ลงพื้นที่ในการหาพยานหลักฐาน เพื่อเชื่อมโยงในการจับกุมตัวคนร้ายในคดีนี้

พ.ต.อ.จิระวุฒิ กล่าวถึงหมายจับของนายเจริญ เทพวงศ์ อายุ 50 ปี ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีปล้นรถขนเงินของบริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด บริเวณตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย ห้างเทสโก้โลตัส สาขาบางวัว ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ได้เงินสดไป 4.6 ล้านบาท ฆ่าคนตายในพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี และปล้นรถขนเงินที่โลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาหนองข้างคอก ได้เงินไป 6.8 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา แม้หมายจับดังกล่าวได้ออกเมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นหมายเก่า และได้มีการตั้งเงินรางวัลนำจับไว้ 200,000 บาท หมายจับดังกล่าวยังมีผลอยู่ หากใครจับนายเจริญหรือแจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวได้ สามารถรับเงินรางวัล 200,000 บาทได้ทันทีตามที่ประกาศไว้

“ส่วนหมายจับในคดีชิงทรัพย์รถขนเงินครั้งล่าสุด ยังไม่มีหมายจับแต่อย่างใด เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวคนร้าย ส่วนคดีดังกล่าวจะเชื่อมโยงนายเจริญหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจ” พ.ต.อ.จิระวุฒิกล่าวและว่า ในส่วนของการตั้งข้อสังเกตว่ามีรถขนเงินมาใส่ตู้เอทีเอ็มจำนวนมาก ทำไมไม่ให้ตำรวจไปดูแล ซึ่งในเรื่องนี้เคยมีคำสั่งว่าหากมีการขนเงินมาจำนวนมาก หากประสานงานขอความช่วยเหลือ ตำรวจก็พร้อมไปอำนวยความสะดวกและดูแลทางด้านความปลอดภัย แต่ส่วนใหญ่ในทางปฏิบัติผู้ที่นำเงินมาใส่ตู้เอทีเอ็มไม่มีการประสานงานขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นขั้นตอนปฏิบัติที่ไม่อยากให้รู้เกี่ยวกับการขนเงินก็เป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสืบสวนสอบสวน ตำรวจยังพุ่งคงเป้าไปที่นายเจริญ เนื่องจากมีประวัติการปล้นรถขนเงินอย่างโชกโชน และที่สำคัญการชิงเงินครั้งล่าสุดได้ใช้เส้นทางหลบหนีไปทางเดียวกับที่เคยมีการปล้นเงิน โดยเฉพาะนายเจริญยังอยู่ระหว่างการหลบหนี อาจจะวางแผนชิงเงินในครั้งนี้  นอกจากนี้คนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้คาดว่าไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ทำงานเป็นทีม โดยมีพรรคพวกให้ความช่วยเหลือหลังจากชิงทรัพย์ได้แล้ว ซึ่งตำรวจพยายามเชื่อมโยงช่วงหลังจากที่คนร้ายได้เงินไปแล้วไปยังจุดนัดพบที่ใด ซึ่งอาจจะได้ภาพวงจรปิดในการเปิดเบาะแสติดตามตัวคนร้าย รวมทั้งชุดสืบสวนยังมีการตั้งข้อสังเกตการชิงเงินในครั้งนี้อาจจะมีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาทหาร ยศสิบเอก อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งชุดสืบสวนได้มีการจับตาเป็นพิเศษอีกด้วย