‘ศรีวราห์’แนะร่างกฎก.ตร.อิงรัฐธรรมนูญ-กม.ศาลปกครอง ชี้ตั้งรองผบก.-สว.ยึดกฎเหล็ก 49

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีการพิจารณาร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559 ว่า ได้รับร่างมาพิจารณาแล้ว โดยเสนอไปว่าการร่างกฎ ก.ตร. ต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง มาตรา 9 ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องต่อไปนี้ (1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกกฎคำสั่งหรือการกระทำอื่นใดเนื่องจากกระทำโดยไม่มีอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น หรือโดยไม่สุจริต หรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ถึงสารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2558 ซึ่งเป็นวาระเดียวกับการแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร. ถึง ผบก. ดังนั้นเมื่อเป็นวาระเดียวกัน ต้องใช้กฎเดียวกันในการแต่งตั้ง การแต่งตั้งระดับนายพลที่ผ่านมา ใช้กฎก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ สว. ถึง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พ.ศ.2549 ดังนั้น ระดับรอง ผบก.-สว. ควรใช้กฎเดียวกัน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่า ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ย่อมได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนี้ ที่ผ่านมามีข้าราชการตำรวจร้องเรียนประเด็นนี้มาที่ตนหลายราย ว่าควรใช้กฎเดียวกันเมื่อเป็นวาระเดียวกัน

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวถึงการได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาแนวทางการเติบโตก้าวหน้าของพนักงานสอบสวน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งเป็นคณะทำงานอย่างเป็นทางการ หากมีคำสั่งเมื่อใดจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบถามความคิดเห็นว่าควรออกแบบแนวทางการเติบโตของพนักงานสอบสวนอย่างไรให้การทำงานของพนักงานสอบสวนเกิดประโยชน์กับประชาชนและองค์กรตำรวจมากที่สุด เบื้องต้นเห็นว่าควรให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจหน้าที่เพิ่มขึ้น สามารถสืบสวนได้ ต้องตรวจตู้แดง เป็นสายตรวจได้ เพื่อดึงศักยภาพการทำงานออกมาให้มากที่สุด แล้วปรับให้พนักงานสอบสวนมีตำแหน่ง รองสารวัตร สารวัตร สารวัตรใหญ่ รองผู้กำกับการ ผู้กำกับการ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เคยใช้ในอดีต เพื่อเปิดโอกาสให้เติบโตได้ในระดับบริหาร หากคณะทำงานรับฟังเสียงส่วนใหญ่แล้วเห็นด้วยกับแนวทางนี้ก็ต้องหารือเรื่องเงินค่าตอบแทนพิเศษประจำตำแหน่งให้สอดคล้อง หลักการของตนคือทำให้งานสอบสวนมีประสิทธิภาพ ใช้ศักยภาพของคนอย่างเต็มที่ และงานสอบสวนจำเป็นต้องอยู่กับตำรวจ