เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นเป็นแนวคิดในฐานะที่เป็น ผบช.น. มีความเห็นว่าสุภาพสตรีสมัยนี้หลายท่านมีความรู้ความสามารถสูงส่ง ถ้ามองไปถึงในอดีตมีนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นผู้นำอย่างประเทศเยอรมนี ในประเทศไทยก็มีหลายคน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีแล้ว สิทธิสตรีต้องเท่าเทียมกัน และมีกฎหมายไว้ในรัฐธรรมนูญในทุกฉบับ ประกอบกับมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีประกาศ คสช.ฉบับที่ 7/ 2559 ซึ่งออกมายกเลิกตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการและตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นลักษณะตำแหน่งเฉพาะทางให้มาเป็นตำแหน่งหลัก ตามที่เคยให้สัมภาษณ์พนักงานสอบสวนเดิมอยู่ในกรง เปิดกรงออกมาแล้วสามารถไปดำรงตำแหน่งได้ทุกตำแหน่ง กรณีดังกล่าวเห็นควรว่าจะให้โอกาส เปลี่ยนจากพนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิระดับ ผกก.ดูแลงานสอบสวน ลงไปบริหารงานสถานีตำรวจนครบาล เป็น ผกก.ดูแลสถานีตำรวจนครบาล แล้วชั่งน้ำหนักโดยไม่ใช่คิดแล้วเอาตนเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียว แต่คิดเพราะอยากให้สิทธิสตรีเท่าเทียมกัน เพราะผู้หญิงเก่งทำงานตำรวจมีค่อนข้างเยอะ ได้หารือกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องรับความคิดว่ามีความเห็นอย่างไร ทุกคนเห็นด้วยหมด แต่ยังไม่เพียงพอก็ต้องฟังจากผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมขณะนี้มีอยู่ 3 ราย เพื่อซักถามว่าสมัครใจหรือไม่ ไม่ใช่ไปบังคับให้ท่านไปเป็นหัวหน้าสถานีเพื่อให้ไปรับความลำบาก แล้วมาโทษเรา เบื้องต้นได้รับรายงานมาว่า พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิยศ พ.ต.อ.หญิง 3 ราย สมัครใจและทำเอกสารประวัติการทำงานส่งมาให้พิจารณาแล้ว
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็คิดว่า หากเป็นไปได้ ถ้าทุกคนเห็นพ้องต้องกัน พี่น้องประชาชนเห็นด้วย ผมก็จะพิจารณาเพื่อดำเนินการแต่งตั้ง แต่ในเบื้องต้นก็พูดคุยกันต่อว่า จะให้ไปดำรงตำแหน่งที่ใด อาจจะให้ไปดำรงตำแหน่งในพื้นที่โรงพักขนาดเล็กก่อนที่สามารถจะให้ไปลำบากลำบน โดยมีการพูดคุยถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการถวายการรักษาความปลอดภัยกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงให้ความเห็นว่าไม่มีปัญหาขัดข้องแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันแล้ว ก็จะให้โอกาสท่านที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเลือกรอง สว. รอง ผกก. มีทีมงานให้ท่านไปทำงานร่วมกันด้วย เพื่อให้ท่านจะได้สบายใจ มีคนที่ท่านไว้ใจไปทำงานร่วมกับท่าน ฐานะเป็นหัวหน้าสถานี เชื่อว่าจะทำงานเป็นหัวหน้าสถานีได้อย่างดี และเป็นการยกย่องผู้หญิงที่เป็นสตรีให้ได้รับสิทธิเท่าเทียมตามนโยบายของรัฐบาล ทั่วโลกก็ยกย่องให้ความเสมอภาคกัน” รรท.ผบช.น. กล่าว
เมื่อถามว่า จะได้รับการคัดเลือกทั้ง 3 คน หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ก็ต้องพิจารณาดูก่อน เบื้องต้นอาจจะพิจารณาคัดเลือกเพียง 1 คนก่อน สุดท้ายอาจจะให้มาแสดงวิสัยทัศน์เร็วๆ นี้ เพื่อดูว่ามีความพร้อมแค่ไหน ซึ่งการดำเนินการพิจารณาคัดเลือกอย่างจริงจังแล้ว อาจจะมีการพิจารณาแต่งตั้งมากกว่า1 คนก็เป็นไปได้ ซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด เพราะผู้ได้รับการพิจารณาไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เพียงแต่หมุนเวียนตำแหน่งในระดับเดิม แต่เดิมจะมีการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นตำแหน่งเฉพาะทาง เมื่อลงจากตำแหน่งจะไม่มีใครไปทดแทนตำแหน่งเดิมได้ โดยตำแหน่งพนักงานสอบสวนจะได้รับการเลื่อนไหลโดยประเมินจากผลการปฏิบัติงานสอบสวน สอบข้อเขียน ก็โอกาสที่จะแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีค่อนข้างยาก แต่เมื่อมีประกาศ คสช.ฉบับที่ 7/2559 ทำให้ตำแหน่งพนักงานสอบสวนเป็นตำแหน่งหลัก ถ้าลงมาก็ไม่เสียตำแหน่งเลย ถือเป็นการให้เกียรติผู้หญิงแสดงความสามารถ
เมื่อถามว่า หาก พ.ต.อ.หญิงที่ได้รับเลือกพิจารณาเลือกตำรวจหญิงทั้งโรงพักนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะผู้บังคับบัญชาให้เป็นหัวหน้าสถานี อาจจะต้องเลือกผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง ดีไม่ดีอย่างไรเราช่วยพิจารณาร่วมด้วย ไม่ทอดทิ้งจะเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย แต่ถ้าเราไม่ได้เลือกให้เลือกทีมงาเลย อาจจะทำให้ไม่สบายใจ ฉะนั้นเราให้ทำงานอย่างสบายใจไร้กังวล ทีมงานก็เลือกเอง ตำรวจหญิงทั้งโรงพักได้ยิ่งดี แต่ก็เป็นไปได้ยาก เพราะจะเป็นอุปสรรคจำเป็นต้องมีคนที่ทำงานหลายๆ ด้าน
เมื่อถามว่า มีโรงพักในใจว่าจะให้ไปอยู่ที่ใดนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ที่มีการพูดคุยกัน อาจจะกำหนดให้ผู้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกไปอยู่โรงพักที่อาจจะเป็นพื้นที่ทางน้ำเยอะหน่อย พื้นที่บนบกบ้าง เพราะว่าถ้าเอาไปรับผิดชอบงานหนักสมบุกสมบันเลย จะกล่าวหาได้ว่าเอาสุภาพสตรีลงพื้นที่ทำงานสมบุกสมบันเกินไป เอาพื้นที่เลือกให้เป็นพื้นที่มีปริมาณงานไม่มาก และก็ถามความต้องการของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกไว้ตรงไหน ถ้าได้รับการคัดเลือกแล้ว พิจารณาแล้ว เหมาะสมแล้ว สมัครใจแล้ว อยากอยู่พื้นที่แถวไหนได้บ้าง โรงพักระดับกลางได้หรือไม่ จะหนักไปหรือไม่ บางทีก็ต้องชั่งน้ำหนักทุกอย่างก่อนพิจารณา
เมื่อถามถึงการทำโผการแต่งตั้งระดับรอง ผบก.-สว. วาระปี 2558 นั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำหนดช่วงระยะเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง เพราะถึงแม้มีช่วงเวลาชัดเจน แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ขณะนี้หนังสือเวียนแจ้งให้ทราบยังไม่ถึง แต่กำหนดการจะมีการเริ่มพิจารณาในช่วงต้นเดือนเมษายนในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตามกฎ ก.ตร.แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ จะต้องมีการพิจารณาแต่งตั้งต้องทำบัญชีผู้เหมาะสมก่อน โดยให้กองบังคับการดำเนินการทำส่งขึ้นมา กองบัญชาการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อคัดเลือกผู้เหมาะสมก็จะมีการพิจารณา โดยตนเป็นผู้จัดทำบัญชีเหมาะพิจารณาคัดเลือกดูว่า ใครที่ควรได้รับเลือกที่เป็นคนดีมีฝีมือไม่มีต้นทุน
เมื่อถามว่า ยืนยันว่า ครั้งนี้ไม่มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า แน่นอนตามที่เคยประกาศเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มารับตำแหน่งแล้ว และยังคิดเหมือนเดิมว่า จะไม่มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างแน่นอน เพราะไม่อยากให้ ผกก.หัวหน้าสถานี หรือผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ลงไปอย่างมีต้นทุนจะได้ทำประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนมากๆ ก็อยากจะได้คนดีๆ ยืนยันว่าจะพิจารณาเพื่อหาคนดี และมีความรู้ว่าความสามารถทำงานให้พี่น้องประชาชน จะได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป