ความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปภาพสาดโจ๊กร้อนๆ ใส่สาวเซเว่น แชร์ว่อนตามสื่อสังคมออนไลน์ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่าเป็นคดีระหว่างพนักงานเซเว่น ขัดแย้งกันเรื่องการทำงานในสาขา เบื้องต้น ทราบว่าเป็นร้านสะดวกซื้อสาขาคูบางหลวง หน้าเอื้ออาทร ต.คูบางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 30 มีนาคม พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.นที สิริวรวัชร์ ผกก.สภ.คูบางหลวง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปรับตัว น.ส.จิดาภา จิตดี อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุสาดโจ๊กร้อนๆ ใส่หน้า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พนักงานเซเว่นฯ หลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากทางญาติว่าสามารถติดต่อผู้ต้องหาได้แล้ว และขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังรับแจ้งจึงได้เดินทางไปรับตัวที่บ้านญาติย่าน ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยได้เดินทางมาพร้อมกับนางสมพร นวลย้อย อายุ 45 ปี มารดาของผู้ต้องหา และตรวจสอบที่แขนผู้ต้องหาไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด
น.ส.จิดาภา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำงานที่ร้านนี้มาประมาณ 1 ปี กระทั่งมีนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เข้ามาทำงานใหม่ แต่ช่วงหลังมาได้ทราบเรื่องจากเพื่อนพนักงาน และจากทางผู้จัดการร้าน ว่า ตำหนิตนเองเรื่องการทำงานทำยอดสู้เด็กใหม่ไม่ได้ พร้อมทั้งถูกแจ้งว่าจะให้ตนเองย้ายไปอยู่อีกสาขา ตนเองจึงรู้สึกไม่พอใจ จึงได้หยุดงานไป กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ได้เข้ามาซื้อโจ๊กกิน และมาพบกับนางสาวเอ และรู้สึกโมโหจึงได้สาดโจ๊กใส่ แล้วหนีออกไปจากร้าน กระทั่งมาทราบเรื่องว่ามีคลิปภาพด้วยความตกใจจึงได้หลบหนีไป และติดต่อกับแม่เพื่อขอมอบตัว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ และขอโทษผู้เสียหายที่ทำลงไป เพราะฟังคำจากคนอื่นจนเข้าใจผิดและไม่พอใจเอง ยอมรับผิดทุกอย่าง
ด้าน พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้ประสานกับทางญาติๆ ผู้ต้องหาและกดดันเพื่อให้เข้ามอบตัว กระทั่งได้รับการประสานขอเข้ามอบตัว จึงได้เดินทางไปรับตัวมาจากที่บ้านญาติ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าหลังก่อเหตุได้ไปอยู่บ้านเพื่อนย่านเมืองปทุมธานี ส่วนสาเหตุการก่อเหตุเกิดจากไม่พอใจที่ถูกตำหนิเรื่องทำงานจนเกิดข้อเปรียบเทียบ และถูกย้ายสาขาเปลี่ยนสถานที่ทำงาน จนเป็นเหตุไม่พอใจกัน อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวจะได้สอบสวนอย่างละเอียด จากนั้นจะนำหลักฐานส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป