เมื่อวันที่ 28มีนาคม ว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีมีประชาชนกลุ่มเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ มีนายผจญ เชือกรัมย์และเกษตรกร 5 อำเภอ คือ อำเภอหนองกี่, อำเภอโนนสุวรรณ, อำเภอนางรอง, อำเภอปะคำ และอำเภอหนองหงส์ รวม 222 ราย ได้ยื่นคำขอความช่วยเหลือทางคดีจากกระทรวงยุติธรรม และศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีถูกบริษัทผู้ผลิตปุ๋ยแห่งหนึ่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดนางรองเรียกให้ชำระค่าปุ๋ย รวมทั้งสิ้น222คน รวม 88 คดี ทุนทรัพย์ 40,378,000 บาท สืบเนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวไปเข้าร่วมโครงการเกษตร กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดต่อมามีการขอให้สั่งซื้อปุ๋ยจากบริษัทดังกล่าว ต่อมากระทรวงยุติธรรมได้ประสานมายัง นายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาส อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความ เพื่อขอให้จัดทีมทนายความในการให้ความช่วยเหลือคดีดังกล่าว คดีนี้ทางสภาทนายความได้มีมติรับช่วยเหลือ และได้มีคำสั่งที่ 2/2560 ลงวันที่ 11 มกราคม 2560 แต่งตั้งทนายความอาสา เป็นคณะทำงานในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ กรณีถูกกลุ่มบริษัทผู้จำหน่ายปุ๋ยฟ้องดำเนินคดี
โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ นายเสาวภักดิ์ เป็นประธานคณะทำงาน และทนายความอาสา อีกหลายคนร่วมปฏิบัติหน้าที่ซึ่งผลการต่อสู้คดี ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 ศาลจังหวัดนางรอง ได้มีคำพิพากษาโดยสรุปว่าโจทก์กับจำเลยทั้งหมดไม่มีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาซื้อขายกัน เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ โจทก์(บริษัทปุ๋ย)ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 222 คน กรณีนี้สภาทนายความได้ปฏิบัติงานจนเป็นผลสำเร็จ สามารถช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้และไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความ ได้จึงเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
