ความคืบหน้าเหตุรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร มีนายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถหรู บริษัท ลัคโซติค ออโตโมทีฟ เป็นคนขับ พุ่งชนท้ายรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เฟียสต้า ไฟลุกไหม้คลอกนายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี ทั้งสองเป็นนักศึกษาปริญญาโท เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน ขาออก มุ่งหน้าสระบุรี กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย ท้องที่สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 31 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1(บช.ภ.1) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีว่า ล่าสุดสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 30 ปาก กำชับให้ตำรวจทุกนายทำงานตรงไปตรงมา ขณะนี้สำนวนคืบหน้าไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจในพยานหลักฐานว่าสามารถสั่งฟ้อง เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ ยืนยันไม่หนักใจในการทำงาน ทั้งนี้ในส่วนของคำสั่งโยกย้าย พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ สุขสวัสดิ์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา และพ.ต.ท.สมศักดิ์ พลพันขาง รองผกก.(สอบสวน)สภ.พระอินทร์ราชา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ไปปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) นั้นล่าสุดพ.ต.อ.สุรินทร์ ทับพันบุปผา รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อยู่ระหว่างทำรายงานชี้แจงมายังตน เบื้องต้นตำรวจทั้ง 2 นายคงไม่ถูกดำเนินคดีทางอาญา แต่จะมีโทษทางวินัยและทางปกครองในเรื่องการบกพร่องการทำงานในกรณีไม่ดูแลใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชาและล่าช้าในการรับเรื่องดำเนินการ คาดว่าผลจะมาเร็วที่สุด