ภ.8จับมือตร.ท่องเที่ยวรวบ 2 มาเฟียยิวเกาะสมุย ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองนักธุรกิจอิสราเอล

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รอง ผบช.ทท. ) พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สภ.บ่อผุด ,และ พ.ต.ท.วรงค์ ถาปนา สว.ทท.เกาะสุมย พร้อมกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาะสมุย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ,กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมบูรณาการจับกุมกลุ่มชาวอิสราเอลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จับกุม1.นาย Ori Levy(โอริ เลวี่) สัญชาติ อิสราเอล ข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” เหตุเกิดในพื้นที่เกาะส้ม หมู่ที่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2560 ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุยที่ 15/2561 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 และเป็นบุคคลที่รัฐบาลประเทศอิสราเอลแจ้งว่าเคยกระทำผิดและต้องคำพิพากษาถึงจำคุกในประเทศอิสราเอล ข้อหา “ครอบครองและพกพาอาวุธปืน ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ครอบครองยาเสพติด และขับรถโดยประมาท”

2.นาย Shalom Fima(ซาลอม ฟิมา) หรืออีโก้ สัญชาติ อิสราเอล ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลที่รัฐบาลประเทศอิสราเอลแจ้งว่าเคยกระทำผิดและต้องคำพิพากษาถึงจำคุกในประเทศอิสราเอล ข้อหา “ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย ลักพาตัวเพื่อฆาตกรรม กรรโชกทรัพย์ และขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน” ซึ่งเข้าลักษณะเป็นบุคคลต้องห้ามตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ม.12(6) “เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาของศาลไทยหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ …”
พฤติการณ์การก่อเหตุในประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าสืบนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าพนักงานตำรวจและทหารร่วมกันจับกุมนายแนตตี้ สัญชาติอิสราเอล ข้อกล่าวหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองดังกล่าวเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกันกับนายแนตตี้
รองผบช.ทท. กล่าวอีกว่าเบื้องต้นทั้งสองคนมีพฤติการณ์ร่วมกันข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากชาวอิสราเอลที่มาประกอบธุรกิจในพื้นที่เกาะสมุย โดยพฤติการณ์จะเข้าไปนั่งในสถานประกอบการ พูดจาข่มขู่จะทำร้ายร่างกายญาติที่อยู่ในประเทศอิสราเอล พร้อมทั้งส่งคลิปและภาพที่มีอาวุธปืนให้กับผู้ประกอบการที่ถูกข่มขู่ ซึ่งส่วนมากจะยินยอม เนื่องจากเกรงกลัวญาติจะได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต จึงไม่กล้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งการกระทำดังกล่าวของทั้งสองคนมีลักษณะเป็นผู้มีอิทธิพล กลุ่มแก๊งมาเฟีย ซึ่งทำลายภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ทั้งยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และขัดกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งให้กวดขันปราบปรามผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติที่มากระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image