เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนรัฐ รุ่งโรจน์ดี ผกก. และนางขวัญวงศ์ พิกุลทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ร่วมกันแถลงจับกุม นายบุญโฮม หรือโม่ง ลินทอง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 23/2559 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ในข้อหา “ค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนขอทาน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพทางร่างกาย”
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า สืบเนื่องจากกลางเดือนพฤศจิกายน 2558 ได้เข้าร่วมแผนปฏิบัติการจัดระเบียบขอทานร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานต่างๆ ขยายผลช่วยเหลือขอทานตาบอดที่ถูกกักขังโดยมีการล็อกห้องจากด้านนอกไว้ในโรงแรมฟ้าสาง จากการตรวจสอบพบขอทานพิการทางสายตา 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ทั้งคู่จะทำการขอทานภายในชุมชนพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง เมื่อขอทานเสร็จสิ้นจะนำเงินที่ได้มาซื้ออาหารให้ทั้งสองคน จากนั้นจึงล็อกห้องไว้จนกว่าจะไปทำงานอีกครั้ง หากผู้เสียหายไม่ยอมทำตามนายบุญโฮมจะพูดข่มขู่ว่าจะแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับทั้งคู่ที่เป็นขอทาน
พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เสียหายให้การว่า นายบุญโฮมหลอกว่าจะให้มาทำงานเป็นวงดนตรีขอทานแต่ปรากฏไม่เป็นเช่นนั้น แต่เนื่องจากกลัวนายบุญโฮมแจ้งตำรวจจึงไม่กล้าขัดขืน อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวถือเป็นคดีแรกที่สามารถจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังการขอทานได้
นางขวัญวงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พม.ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบขอทานจึงพบเบาะแสว่ามีการหาผลประโยชน์กับกลุ่มคนพิการทางสายตา โดยหลอกลวงมาให้ขอทานตามชุมชน อย่างไรก็ตาม คิดว่ากฎหมายใหม่สำหรับขอทานจะกำหนดใช้กลางปีนี้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ผู้แสดงความสามารถ จะต้องมาแจ้งพื้นที่ที่จะทำการแสดง พร้อมระบุความสามารถอะไร 2.ขอทานเพื่อหาเลี้ยงชีพ ให้มารายงานตัวพร้อมระบุตัวตนที่ชัดเจน กระทรวงยินดีช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม มีผู้หวังผลประโยชน์โดยทำเป็นกระบวนการทางธุรกิจ ทั้งนี้กฎหมายใหม่มีการระบุโทษ หากไม่มีการรายงานตัว จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายบุญโฮม ให้การว่า ได้รู้จักการกลุ่มคนพิการทางสายตาเนื่องจากผู้เสียหายได้อ้างให้เป็นคนขับรถให้ โดยให้ราคา 350 บาทต่อวัน จากนั้นตนจึงได้ชักชวนมาให้ทำวงดนตรีคนตาบอด ซึ่งบางรายก็โทรมาหาตนเอง ทั้งนี้ตนได้ทำงานในลักษณะนี้มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ขอยืนยันว่าสาเหตุล็อกห้องพักเนื่องจากทั้ง 2 คน ชอบดื่มสุรา ทำรบกวนผู้พักอาศัยห้องอื่นๆ ทำให้ตนเดือดร้อนจึงตัดสินใจล็อกห้องไว้
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายได้รู้จักกับนายบุญโฮมในชื่อ “โม่ง”และเริ่มทำงานขอทานตั้งแต่ปี 2553 โดยนายบุญโฮมอ้างว่าจะพามาทำงาน ซึ่งการทำงานจะแบ่งเป็น 2 เวลา คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยราย 1,500-2,000 บาทต่อวัน ในการทำงานแต่ละครั้ง นายบุญโฮมไม่เคยให้เงินติดตัวเลย และห้ามพูดคุยกับคนอื่น หากไม่ทำตามคำสั่งนายบุญโฮมก็จะพูดจาข่มขู่ ซึ่งจากการทำงานครั้งล่าสุดนายบุญโฮมอ้างว่าจะให้เงิน 7,000 บาท แต่กลับได้รับเงินเพียง 3,500 บาทเท่านั้น