อธิบดีดีเอสไอ เผย “พระธัมมชโย”ยังไม่ได้ประสานจนท.มารับข้อหาตามวันนัดหมายหรือไม่ พบข้อมูลผู้ต้องหา 1 ราย เผ่นนอกแล้ว
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียกพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้มารับทราบข้อกล่าวหาฐานความผิดสมคบฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ว่า เบื้องต้นทางดีเอสไอยังไม่ได้รับการประสานจากทางวัดพระธรรมกาย ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย หากผู้ที่ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหานั้น ไม่สะดวกตามที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปแล้ว ก็สามารถขอเลื่อนนัดออกไปได้ 1 ครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเหตุผลในการขอเลื่อนนัดด้วย ซึ่งจำเป็นต้องแจ้งเหตุผลที่ขัดข้องให้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาดูว่าเหตุผลดังกล่าวสมควรให้เลื่อนนัดออกไปได้หรือไม่
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวด้วยว่า ผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวนมากที่ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่รับเช็คสหกรณ์ฯคลองจั่น โดยไม่มีมูลหนี้ ซึ่งดีเอสได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 แล้วนั้น พบว่าสมาชิกสหกรณ์ฯคลองจั่น ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกษียณอายุราชการแล้ว และได้นำเงินเก็บสะสมตลอดชีวิตของตัวเองมาฝากยังสหกรณ์ฯคลองจั่น เพื่อหวังได้รับเงินปันผลจากทางสหกรณ์ฯคลองจั่น ซึ่งหลังจากเกิดคดีดังกล่าวขึ้น ทำให้สมาชิกทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก บางรายถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว และบางรายแม้แต่เงินที่จะนำไปรักษาอาการเจ็บป่วยโรคประจำตัวก็ยังไม่มี ดังนั้น ตนจึงอยากให้ประชาชนมองถึงปัญหาที่สมาชิกเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ดีเอสไอออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ความผิดสมคบฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะมีการออกหมายเรียก ทั้งนี้ น.ส.ศศิธร มีชื่อเป็นผู้ผ่านเงินให้พระธัมมชโย เป็นเช็ค 1 ฉบับ จำนวน 17 ล้านบาท
