เมื่อเวลา 06.00 น. นายเกรียงไกร กิริวรรณา นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด เจ้าหน้าที่ชุดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบต้นไม้พะยูงดำ ซึ่งถูกโค่นล้ม บริเวณใกล้โบสถ์ภายในวัดป่าสันติวาสอินทาราม บ้านเสียว หมู่ 5 ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังจากถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปตัดอย่างอุกอาจเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา โดยมีพระอธิการวิญญู คัมภีรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่าสันติวาสอินทาราม และนายทองพูน ภูกิ่งแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านยืนรอให้ข้อมูลและแจ้งเบาะแสคนร้ายด้วยท่าทีอาการตกใจ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบต้นพะยูงดำขนาด 1 คนโอบ อายุประมาณ 100 ปี ถูกโค่นล้มลงบริเวณทางเข้าภายในวัด ห่างจากประตูทางเข้ากุฏิและโบสถ์เพียง 30 เมตร โดยลำต้นจากตอไปถึงกลางลำต้นยาวประมาณ 2 เมตร ถูกคนร้ายตัดและนำขึ้นรถหลบหนีไป ซึ่งเหลือเพียงส่วนกลางลำต้นไปถึงปลายไว้
พระอธิการวิญญู คัมภีรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่าสันติวาสอินทาราม กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. อาตมาและพระในวัดทั้งหมดได้ยินเสียงสุนัขเห่า จากนั้นได้ยินเสียงคล้ายกับรถจักรยานยนต์ติดเครื่องจอดอยู่ที่ข้างกุฏิห่างประมาณ 30 เมตร จึงลุกออกมาดูที่หน้าต่างมองเห็นกลุ่มคนคนร้ายประมาณ 5-6 คน กำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นพะยูงบริเวณทางเข้าภายในวัดอยู่ อีกทั้งบริเวณประตูทางเข้าออกวัดก็มีคนร้ายยืนเฝ้าไว้ จึงได้ลงมาดู พร้อมพระลูกวัด และตะโกนห้ามไม่ให้ตัด แต่กลุ่มคนร้ายกลับยิงปืนเข้ามาใส่ 2 นัด จึงหลบหลังต้นไม้ ขณะเดียวกันก็มองพระรูปอื่นวิ่งหนีลูกปืนจนล้มลุกคลุกคลานไปตามๆ กัน จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้ตะโกนบอกว่า “หลวงพ่อถอยไปเลย พวกผมต้องการไม้เท่านั้น ไม่ต้องการฆ่าพระ” จากนั้นเห็นคนร้ายอีก 3 คน ซึ่งมีอาวุธปืนครบมือวิ่งไล่และใช้ปืนขู่พระไม่ให้เข้ามาใกล้
พระอธิการวิญญู กล่าวอีกว่า ถึงจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น แต่กลุ่มคนร้ายก็ไม่เกรงกลัวยังตัดและเลื่อยไม้พะยูงจนล้ม จากนั้นก็ได้มีรถกระบะตอนเดียว สีเทา ไม่ทราบยี่ห้อ และเลขทะเบียน วิ่งเข้ามาจอด และคนร้ายได้ช่วยกันยกไม้พะยูงที่ตัดเป็นท่อนขึ้นรถแล้วขับหายไปในหมู่บ้าน ซึ่งคนร้ายใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 10 นาทีเท่านั้น พอตั้งสติได้จึงโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจ พบว่าถูกคนร้ายตัดไปประมาณ 2 เมตร
ด้านนายทองพูน ภูกิ่งแก้ว ผู้ใหญ่บ้านเสียว ม.5 กล่าวว่า กรณีไม้พะยูงถูกคนร้ายบุกเข้ามาตัดดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก เนื่องจากเข้ามาตัดทั้งๆ ที่มีพระเณรอยู่เต็มวัดและใกล้หมู่บ้าน โดยวางกำลังล้อมวัดทุกคนมีอาวุธปืนครบมือและยิงใส่พระด้วย จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ ทั้งทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง เร่งไล่ล่าคนร้ายกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ และกำลังอาละวาดหนัก ซึ่งลักลอบตัดในพื้นที่แบบเรียงวันเรียงคืน แต่ยังหนีลอยนวล
ขณะที่นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับกำลัง 3 ฝ่ายเฝ้าระวังเข้มงวด เนื่องจากไม้พะยูงมีราคาสูงและอาจมีใบสั่งจากนายทุนต่างประเทศ พร้อมกำชับให้เร่งไล่ล่าแก๊งตัดไม้พะยูง โดยประสานความร่วมมือกันทั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยตรวจสอบว่าเป็นใบสั่งของกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือไม่ และในส่วนของฝ่ายปกครอง อำเภอให้ประสานกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทำการแจ้งข่าวและพฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนแปลกหน้าและเชื่อว่าเป็นขบวนการตัดไม้พะยูง และตำรวจติดตามเรื่องคดีและให้ประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้และทำหนังสือแจ้งผู้นำชุมชน ให้ร่วมกันตรวจสอบและเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนทหารซึ่งชุดเฉพาะกิจก็ให้ร่วมตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
