“ศรีวราห์” รุดสอบปาก กรรมการบริษัทในเครือ เจ้าสัว “เปรมชัย” รุกป่าภูเรือกว่า 6 พันไร่

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ที่ บก.ปทส. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พ.ต.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน ผกก.กก.1 บก.ปทส. และ พ.ต.อ.สมคิด ทิพยจักรพงษ์ ผกก.กก. 3 บก.ปทส. นายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร ผอ.ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ได้ร่วมสอบปากคำ นางพิไลจิตร เริงพิทยา อายุ 68 ปี นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 67 ปี และนางอรเอม เทิดประวัติ อายุ 65 ปี กรรมการบริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  ผู้ต้องหาคดีบุกรุกป่า พื้นที่ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย หลังเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัท ซี.พี.เคฯ ซึ่งเป็น บริษัทในเครือง ของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์จำกัด(มหาชน)ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร


สืบเนื่องจาก เดือน กุมภาพันธ์ 2561 ได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุกพื้นที่ป่า อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นําโดย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้บูรณาการกําลังกับ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.เลย เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และเจ้าที่ตํารวจ บก.ปทส. ทําการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริง จึงได้มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิด จำนวน 6 คดี ได้แก่

1. พื้นที่สภ.โคกงาม ตามคดีอาญาที่ 15/61 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” บริเวณ ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย และ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6,215 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 621,500,000 บาท 2.พื้นที่สภ.ภูเรือตามคดีอาญาที่30/61ลงวันที่13 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน“นํารังวัดในที่ดินซึ่งมิใช่ของ ตนเอง และแจ้งความเท็จ” พื้นที่ป่าบริเวณ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 600,000 บาท 3.พื้นที่สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 35/61 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 16-1-84 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,618,400 บาท 4. พื้นที่สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 37/61 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 293 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 24,914,300 บาท 5.พื้นที่ สภ.ด่านซ้าย ตามคดีอาญาที่ 39/61 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า ภูเปลือย บริเวณบ้านน้ำพุง ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย จํานวน 117 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 8,303,400 บาท และ6. พื้นที่ สภ.ภูเรือ ตามคดีอาญาที่ 88/61 ลงวันที่ 24 เมษายน 2561 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณ บ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 253 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 23,202,100 บาท ทั้งหมดใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูก ต้นแมคคาดีเมีย ต้นแก้วมังกร ต้นองุ่น และต้นยูคาลิปตัสมี โดยบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด เป็นผู้ครอบครอง รวม 6 คดี คิดมูลค่าเสียหายประมาณ 680 ล้านบาท

Advertisement

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเอาผิดตามหลักฐานนิติบุคคลกับผู้ที่อำนาจลงนาม จำนวน 3 คน ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวน 6 พันกว่าไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าในรายชื่อกรรมการบริษัทดังกล่าวมี นายเปรมชัย กรรณสูต รวมอยู่ด้วย แต่กฎหมายสามารถดำเนินคดีได้เฉพาะกับนิติบุคคลและผู้ที่ลงนาม แต่ไม่รวมถึงนายเปรมชัย ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าเป็นผู้เซ็นต์เอกสารลงนามจริง และครอบครองพื้นที่ 6 พันกว่าไร่จริง และพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิจริง ซึ่งที่ดินของเดิมได้มาจากคุณพ่อ คือนายชัยยุทธ กรรณสูต ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีและเพิกถอนเอกสารสิทธิไป ส่วนเรื่องเจตนาบุกรุกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล โดยวันนี้ทั้งหมดมาตามหมายเรียก ยังไม่ได้ถูกออกหมายจับ เมื่อแจ้งข้อหาเสร็จก็ต้องปล่อยตัวไป

ด้านนายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า เรื่องการบุกรุกป่าเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้วไม่ได้มีการปล่อยปะล่ะเลยแต่อย่างใด และมีการเพิกถอนอยู่ตลอดเวลา แต่การที่มีเอกสารสิทธิกลับไปกลับมาทำให้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนการออกโฉนดที่ดินเป็นเรื่องของกรมที่ดิน ทราบว่าได้ใช้ นส.3 ในการขอโฉนด โดยทางกรมป่าไม้ไม่ได้เป็นผู้รับรอง เนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าสงวน ส่วนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ 6 พันกว่าไร่ ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้มีการติดประกาศห้ามใช้อาคาร ซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image