แม่ประนอมควงทนาย ยันไม่ถอนฟ้องลูกสาว ‘ใช้-ปลอม เอกสาร’ ศาลชี้เรื่องครอบครัว ให้เวลาไกล่เกลี่ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 4 เมษายนนี้ ที่ศาลจังหวัดนครปฐม บัลลังก์ ที่ 21 นายอภิสิทธิ์ ศิลาวิลาศภักดี ผู้พิพากษา นั่งบัลลังก์ ไต่สวน คดีดำที่ อ.861/58 ระหว่างนางประนอม แดงโสภา เป็นโจทก์ กับนางศิริพร แดงโสภา จำเลยที่ 1 กับพวก เรื่องปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม โดยนางประนอม แดงโสภา มาพร้อมกับ น.ส.ศิริวรรณ แดงโสภา ลูกสาว และนายพิสิทธิ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความ ขณะที่ฝ่ายจำเลยมีนายทวิชา หวังโภคา ทนายความมาแทน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง คู่ความทั้งสองฝ่ายออกจากศาล นางประนอม แดงโสภา เดินทางกลับ

ขณะที่ศาลจังหวัดนครปฐมได้สำเนาบันทึกคดีของนางประนอม แดงโสภา คดีอาญาหมายเลขดำที่ 861/2558 นางประนอม แดงโสภา (โจทก์) นางศิริพร แดงโสภา ที่ 1 กับพวก (จำเลย) ความว่า นางประนอม แดงโสภา เป็นผู้จัดการมรดกของนายศิริชัย แดงโสภา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางศิริพร แดงโสภา ซึ่งเป็นบุตร นายสุชาติ ภาษาประเทศ สามีจำเลยที่ 1 และนายกำธร ประยูรย์สตางค์ จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นทนายความ กล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ถึง 26 ธันวาคม 2557 จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันปลอมลายมือชื่อของโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจและให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานที่ดินเพื่อโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 57832 44719 44626 44660 44723 57833 2817 2813 และ 2820 ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รวม 9 แปลงขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสาม ความผิดฐานปลอมเอกสารใช้เอกสารปลอม แจ้งเจ้าพนักงานจดเอกสารเป็นเท็จ

ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ปรากฏว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยกฟ้อง ศาลนัดสืบพยานโจทก์จำเลยระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2559 ต่อมาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง อ้างว่าตกลงกันได้แล้ว โดยมีจำเลยที่ 1 และที่ 3 ลงลายมือชื่อรับรองไม่คัดค้าน ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้อง หลังจากวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 โจทก์มายื่นคำร้องฉบับใหม่ โดยอ้างว่าเหตุที่ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องนั้นเพราะเกิดจากกลฉ้อฉลของจำเลยที่ 1 กับพวก ศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 4 เมษายน 2559

จากข่าวสาร วันนี้โจทก์ จำเลยที่ 3 ทนายโจทก์ ทนายจำเลยที่ 1 และทนายจำเลยที่ 3 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มาศาล ผลการพิจารณาคดีคู่ความทั้งสองฝ่ายไม่เคลือบแคลงระแวงสงสัยในองค์คณะผู้พิพากษา แต่ขอเลื่อนนัดไต่สวนคำร้องเพื่อไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันนอกศาล ศาลพิจารณาเห็นควรอนุญาตให้เลื่อนนัดไปไต่สวนคำร้องในวันที่ 14 มิถุนายน 2559 กำชับคู่ความทั้งสองฝ่ายใช้ความระมัดระวังในการให้ข่าวต่อสาธารณชน มิให้กระทบต่อบุคคลหรือองค์กรในกระบวนการยุติธรรมต้องเสียหาย

Advertisement

ต่อมานายทวิชา หวังโภคา ทนายความฝ่ายจำเลย เปิดเผยว่า ศาลท่านเห็นว่าเป็นเรื่องในครอบครัว น่าจะมีการเจรจากันได้ อีกทั้ง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ท่านให้เลขาโทรมานัดให้ไปพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายที่วังวรดิศ ในวันพรุ่งนี้(5 เมษายน 2559) โดยจะมีนางประนอม (แม่) และนางศิริพร (ลูก) โดยศาลเห็นว่าน่าจะได้มีการพูดคุยกันเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว ซึ่งในวันนี้ศาลยังไม่ไต่สวน และยังไม่มีการลงลึกถึงเรื่องคดี ถ้าหากมีการไต่สวนแล้ว จะต้องมีคนถูก และคนผิด เรื่องภายในครอบครัวน่าจะพูดคุยกันก่อนดีกว่า หากไกล่เกลี่่ยกันไม่ได้จริงๆ ก็ต้องมีการไต่สวนในวันที่ 14 มิถุนายน 2559 สำหรับในส่วนของศาลนครปฐม กับศาลแขวงนั้นต้องแยกกันคนละเรื่อง

ด้านนายพิสิทธิ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความนางประนอม กล่าวว่า คู่ความทั้งสองฝ่าย ศาลเห็นว่าไกล่เกลี่ยพูดคุยกันจะดีกว่าการไต่สวน เชื่อว่าแม่ และลูกน่าจะพูดคุยกันได้ ไกล่เกลี่ยดีที่สุด ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงต่อศาลประสงค์ที่จะไกล่เกลี่ย ที่ผ่านมาปีกว่า แม่ ลูก พูดคุยกันเมื่อพบกันที่ศาลก็พูดคุยกัน แต่หลังจากที่เป็นข่าวขึ้นมาแม่และลูกยังไม่ได้พูดคุย พบเจอกันเลย

นายพิสิทธิ์ กล่าวว่า การพูดคุยกันในวันพรุ่งนี้ น่าจะเป็นการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน และจะเดินไปในทิศทางใดต่อไปนี้ สถานภาพต่อไปจะเป็นอย่างไร ต้องดูการพูดคุยกันครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวในวันพรุ่งนี้ก่อน และว่าในวันพรุ่งนี้คงจะไม่มีการพูดคุยเรื่องมรดกใดๆ จะเป็นการพูดคุยปรับความเข้าใจกันก่อนเป็นหลัก หากการพูดคุยพรุ่งนี้ออกมาดี ก็จะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต เพราะศาลให้เวลาในการเจรจาพูดคุย ไกล่เกลี่ยกันทั้งสองฝ่ายถึง 2 เดือนน่าจะพูดคุยกันได้สะเด็ดน้ำ

Advertisement

“ยังไม่มีธงอะไร และยังไม่รู้ว่าจะเอาแบบไหน บทสรุป หรือธงไม่มี ไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน และการพูดคุย ไกล่เกลี่ยกันคงเป็นเรื่องของศาลนครปฐม เรื่องที่ดิน 9 แปลง เรื่องปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม สำหรับในส่วนของศาลตลิ่งชันนั้นเป็นเรื่องของทรัพย์สิน มรดกทั้งหมด ที่ศาลตลิ่งชันเยอะกว่า และศาลกำชับในเรื่องการให้ข่าว อย่าพาดพิงบุคคลอื่น หรือองค์กร หรือ สถาบันเด็ดขาด”

ขณะที่นางประนอม แดงโสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาล ว่ายืนยันไม่ได้ถอนฟ้อง และจะดำเนินคดีกับผู้ปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม และว่าที่ผ่านมามีการนำเอกสารมาหลอกให้เซ็น โดยไม่ทราบว่าคืออะไรและว่าเป็นคนเซ็นเอกสารจริง และยืนยันว่ายังไม่กลับไปอยู่บ้านเดิมเด็ดขาด ส่วนการจะนัดเจรจาพูดคุยกันนั้น ก็ยังสามารถคุยกันได้อยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image