แฝงตัว!คนของ’สันธนะ’ตีเนียนติดบัตรสื่อทำข่าวค้นตลาดใหม่ดอนเมือง ลูกพี่อ้างไม่เกี่ยว

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ต.ท.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษกตร.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7พฤษภาคม) ขณะที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผกก.สันติบาล ที่ปรึกษาบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่สน.ดอนเมือง ซึ่งในขณะนั้นมีผู้สื่อข่าวรอนำเสนอข่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตุเห็นผู้สื่อข่าวคนหนึ่งลักษณะท่าทางมีพิรุธ ไม่มีอุปกรณ์การทำงาน ไม่สนใจที่จะนำเสนอข่าว ท่าทางเหมือนคอยเฝ้าระวังอะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าชายคนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาว่า นายชนะโชติ สุขสุคนธ์ อายุ 40 ปี ได้แขวนบัตรผู้สื่อข่าว ตำแหน่งผู้ช่วยช่างภาพ ของสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ จึงได้บันทึกภาพไว้ ต่อมา ได้ตรวจสอบไปยังสำนักข่าวต้นสังกัด พบว่า นายชนะโชติ ไม่ได้เป็นผู้สื่อข่าวตามที่กล่าวอ้าง

“เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพย้อนหลัง พบว่า นายชนะโชติ ได้แฝงตัวเข้ามาเป็นผู้สื่อข่าว ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ในการนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีหมายเรียก เชิญเจ้าหน้าที่ออกบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวของกรมประชาสัมพันธ์มาสอบปากคำ ว่าเคยออกบัตรผู้สื่อข่าวให้กับบุคคลดังกล่าวหรือไม่ หากพบว่าไม่เคยออกบัตรผู้สื่อข่าวให้กับบุคคลดังกล่าว และยืนยันว่าบัตรดังกล่าวเป็นบัตรปลอม ก็จะดำเนินการให้แจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอมต่อบุคคลดังกล่าวต่อไป”รองโฆษกตร.กล่าวและว่าจากการตรวจสอบมีประวัติต้องคดีกรรโชกทรัพย์และเสพยาเสพติดพื้นที่ สน.ดอนเมือง และตรวจสอบพบเป็นพนักงานของบริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง สงสัยเป็นคนของพ.ต.ท.สันธนะ หรือไม่

พ.ต.ท.ปองพล กล่าวว่า หากพบความผิดจะดำเนินคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามปีะมวลกฎหมายมาตรา 264 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ โดยป.อาญา ม.264 ระบุว่า ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆในเอกสารที่แท้จริงฯ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ตัวแทนของตลาดใหม่ดอนเมือง เปิดเผยว่า บุคคลดังกล่าวคือ นายชนะโชติ สุขสุคนธ์ เป็นพนักงานของบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัดจริง แต่ตนเองไม่ได้ให้นายชนะโชติ ไปสืบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สน.ดอนเมือง แต่นายชนะโชติได้ไปสังเกตการณ์ที่สน. ดอนเมืองว่า มีผู้ค้ารายใดต้องการให้ความช่วยเหลือด้านคดีความหรือไม่ และตนเองไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งสายลับไปสืบข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะสามารถแสวงหาข้อมูล จากแหล่งของตนเองได้ โดยไม่ต้องส่งสายลับไป ทั้งนี้ภายหลังทราบข่าวดังกล่าวได้เรียกนายธนโชติมาสอบถาม นายชนะโชติ อ้างว่าบัตรดังกล่าวเป็นบัตรพนักงานของจริงที่ตนเองเคยได้รับสมัยที่ทำงานอยู่ที่ช่องดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ และเมื่อพ้นสภาพพนักงานก็ยังเก็บไว้ โดยแขวนรวมไว้กับบัตรพนักงาน แต่ด้วยความเร่งรีบจึงหยิบบัตรมาใช้ผิด อีกทั้งบัตรดังกล่าวไม่ได้นำออกมาแขวนแสดงไว้ แต่เก็บไว้ภายในเสื้อ และยังไม่ได้ประกาศว่าตนเองเป็นพนักงานของช่อง 11 หรือ เอ็นบีที นายชนะโชติยังอ้างว่าตนเองไม่ได้หลบหนีตามที่เป็นข่าว ตนเองจึงว่ากล่าวตักเตือน และให้นายธนโชติไปลงบันทึกประจำวันชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สน.ดอนเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการ จับกุมดำเนินคดีแต่อย่างใด

Advertisement

ทั้งนี้ยืนยันว่า หากสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที มาแจ้งความดำเนินคดี หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก ก็จะให้นายชนะโชติไปมอบตัวตามกระบวนการของกฎหมายตามปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image