ซิว ‘แจ๊ค อุ้มญาติ’ ตระเวนลักรถ นครบาล-ภ.1-ภ.7 มีคดีติดตัวอื้อ ขยายผลจับยกแก๊ง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธารงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายกฤษณะ หรือแจ๊ค อุ้มญาติ อายุ 52 ปี ที่อยู่ 99/38 หมู่ 3 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 73/2561 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมของกลางรถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์ 5 เครื่อง ป้ายทะเบียนจำนวนหนึ่ง เหล็กหกเหลี่ยม ไขควง มีดพับพกได้ กระเป๋าสะพาย และอื่นๆ อีกกว่า 15 รายการ โดยจับกุมได้ที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ ถนนสายเอเชีย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยว่า ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนพฤติการณ์คนร้ายที่ร่วมกันโจรกรรมรถยนต์สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนกระทั่งทราบว่านายกฤษณะ หรือแจ๊ค อุ้มญาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 73/2561 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2561 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ในหลายพื้นที่ ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน ทั้งในพื้นที่ตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้ร่วมกันสืบสวน เร่งรัดติดตามจับกุมตัวนายกฤษณะมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยตลอดมา

พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยต่อว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เวลาประมาณ 12.30 น. ตำรวจชุดจับกุมสามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายกฤษณะไว้ได้ ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมันเชลล์ ถนนสายเอเชีย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแฮริเออร์ ทะเบียน กร 3949 พระนครศรีอยุธยา ที่นายกฤษณะขับขี่มา ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นยานพาหนะที่นายกฤษณะใช้ในการขับขี่ตระเวนก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ตามพื้นที่ต่างๆ และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์ พบของกลางต่างๆ จำนวนหลายรายการ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี จากนั้นจึงได้ขยายผลไปทำการตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน กง 1997 สุราษฎร์ธานี ที่นายกฤษณะใช้ขับขี่ตระเวนก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ ได้ที่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยอีกด้วยว่า ผู้ต้องหาจะใช้รถยนต์ของกลาง 2 คัน สลับไปมาเพื่อตระเวนก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ตามพื้นที่ต่างๆ แล้วหารถเป้าหมายที่ใช้ในการโจรกรรม ตามจุดที่เป็นทางเปลี่ยว และเจ้าของรถจอดรถไว้เป็นเวลานาน โดยจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาในการเปิดประตูรถจากนั้นทำลายเบ้ากุญแจและนำเบ้ากุญแจที่เตรียมมาใส่สตาร์ตเครื่อง แล้วจึงขับหลบหนีไปโดยจะนำรถยนต์ที่โจรกรรมได้ไปขายต่อกับเครือข่ายต่อไป

Advertisement

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดีโจรกรรมรถยนต์มาแล้ว 6 คดี และมีหมายจับติดตัวอีก 6 คดี ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image