เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 13 พฤษภาคม ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะทำงานคดีกวาดล้างเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไม่มี อย. และสินค้าผิดกฎหมาย ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง ร่วมประชุมความคืบหน้าของคดี และคดีของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่าในวันนี้พนักงานสอบสวนไปยื่นคำร้อง ฝากขัง พ.ต.ท.สันธนะ ผัดแรกโดยแนบคำร้องไปว่าคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์จะหลบหนี เจ้าหน้าที่ต้องทำการสืบสวนและจับกุม และผู้ต้องหามีการกระทำผิดในอีกหลายข้อหา ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำแล้วมากกว่า 100 ราย นอกจากนี้ ยังมีความผิดเพิ่มเติมที่มีอัตราโทษสูงยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนีได้ และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ มีกลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายคนทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทาง พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น.ในฐานะหัวหน้าทีมชุดสอบสวน ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหารายอื่นๆ ได้แยกย้ายกันหลบหนีออกไปจากพื้นที่ตลาดใหม่ดอนเมืองแล้ว มีทั้งไปต่างจังหวัด และออกไปอยู่ตามตะเข็บชายแดน แต่ตนยืนยันว่าไม่สามารถหลบหนีออกนอกประเทศได้เพราะมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวต่อว่า ตนให้ความมั่นใจกับผู้เสียหาย และพยานทั้งหมด ในคดีนี้ว่าจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากถูกทางผู้ต้องหาฟ้องร้องตามที่พูดออกสื่อไว้นั้นทางเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เพราะจากที่สอบสวนพยานผู้เสียหายพบว่าเป็นความจริง หากมีใครหมายจะดำเนินคดีกับผู้เสียหายเหล่านี้อาจจะกลายเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองในฐานแจ้งความเท็จ หรือผิดฐานฟ้องคดีอันเป็นเท็จ นอกจากนี้ ผู้เสียหายอีกร้อยกว่าราย ตนได้ร่วมสอบสวนด้วยตัวเองพบว่าเป็นผู้เสียหายจริง จ่ายเงินจริง
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวต่อว่า การดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สันธนะ นั้นไม่มีการใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เริ่มจากตนกับคณะทำงานได้รับรายงานว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากการใช้ยา เครื่องสำอาง อาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำการสืบสวนกระทั่งทราบต้นตอที่มาของสิ่งผิดกฎหมายเหล่านั้นอยู่ภายในตลาดใหม่ดอนเมือง จึงต้องดำเนินการแบบขุดรากถอนโคน แต่กลับมีผู้เข้ามาขัดขวางตามที่เป็นข่าว ตนจึงทำการตรวจสอบลึกลงไปกระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่เป็นผู้รับสัมปทาน หรือรับเช่าจากกรมธนารักษ์ และพบว่ามีกลุ่มคนกรรโชกทรัพย์ประมาณ 15-20 คน จึงขอยืนยันว่านี่เป็นการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีเมจิก สกิน นั้นอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน และใกล้จะเรียกพยานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง บุคคลที่รีวิวสินค้า หรือผู้ที่เข้าข่ายให้การสนับสนุนมาสอบสวน และเร่งรัดผลตรวจผลิตภัณฑ์เมจิก สกิน เมื่อผลออกมาแล้วจะได้ดำเนินการแจ้งข้อหาผู้ที่กระทำผิดต่อไป