เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร. ในฐานะประธานชุดคณะทำงานคดีตลาดใหม่ดอนเมือง เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง รวมทั้งความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เข้าร่วมด้วย
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าคดีในส่วนต่างๆ การรวบพยานหลักฐานหลังปฏิบัติการเข้ากวาดล้างสินค้าผิดกฎหมายในตลาดใหม่ดอนเมือง กระทั่งมีการขยายผลพบกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกรับเงินจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วย นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 11 คน ใน 45 คดี ความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยสามารถจับกุม พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ประธานที่ปรึกษาบริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม และจับกุมนายคเณศ เปรมครุฑ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ขณะที่นายวันเพ็ญ ผิวดำดี ได้เดินทางเข้ามอบตัวเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม และเมื่อช่วงบ่ายมีผู้ต้องหาตามหมายจับเข้ามอบตัวเพิ่มเติมอีก 5 คน คือ นายชนะโชติ สุขสุคนธ์ (ยืดคอปกสีน้ำเงิน) นายประนอม แก้วสวัสดิ์ (เชิ้ตขาวฟ้า) นายกฤษณะ หลำรอด (เทา) และนายอนุ สุขสุคนธ์ รวม 7 คน
รองผบ.ตร. กล่าวว่า มีการประสาน ปปง.ให้เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนกรณีที่วันนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจชุดปฏิบัติการระดับนายพล 3 นาย ประกอบด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. นั้น เป็นสิทธิของพันตำรวจโทสันธนะ แต่เชื่อว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อรูปคดี เนื่องจากตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่มี
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. เปิดเผยว่า ในวันนี้พล.ต.อรุ่งโรจน์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน จะเรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนคดีตลาดใหม่ดอนเมือง พร้อมกับตรวจสำนวนความคืบหน้าทาง และวางแนวทางการดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนี ตลอดจนแนวทางการดำเนินคดี หลังพบข้อมูลว่ามีการตระเวนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของพ.ต.ท.สันธนะ ในแง่การให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนในลักษณะว่าจะดำเนินคดีกับพยานทั้ง 8 คนที่เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่เกิดขึ้น ทางตำรวจ จะต้องนำเสนอให้ศาลพิจารณา เนื่องจากการให้ประกันตัวมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน หรือออกนอกประเทศ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประกาศผ่านสื่อมวลชนว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายตำรวจชั้นนายพล ซึ่ง มีชื่อของตนอยู่ด้วยนั้น ไม่รู้สึกหวั่นไหวเพราะทุกอย่างทำไปตามหน้าที่และกรอบกฎหมาย โดยล่าสุดได้แจ้งความดำเนินคดีกับพ.ต.ท.สันธนะและพวกแล้ว 45 คดี และออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง11 ราย ในส่วน พ.ต.ท.สันธนะ ถูกดำเนินคดี 9 คดี 8 หมายจับ
