‘บิ๊กต๊อก’ ปัดพูดรายชื่อ ‘ปานามาเปเปอร์’ ชี้ไม่ใช่ข้อมูลราชการ รอ ‘ปปง.’ ตรวจสอบก่อน

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ ออกมาเปิดเผยเอกสารลับการทำงานของบริษัทแห่งหนึ่งด้านกฎหมายในปานามา ที่ช่วยเหลือลูกค้ารายใหญ่ทั้งนักการเมือง และผู้นำประเทศทั่วโลกในการฟอกเงินและหลีกเลี่ยงภาษี โดยมีการเชื่อมโยงกับคนไทย 21 คน ว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจากสื่อ ไม่ได้เป็นข้อมูลทางราชการ ถ้าราชการจะเอามาดำเนินการต้องเป็นข้อมูลจากทางราชการเพื่อนำมายืนยันกัน แต่ในเมื่อเป็นข้อมูลอย่างนี้แล้ว ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะต้องไปตรวจสอบ ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลจากสื่อ โดยยังไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางราชการ ปปง.ที่มีการประสานงานและบูรณาการข้อมูลกับเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินข้ามชาติทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ ต้องติดตามข้อมูลที่เป็นทางการมา

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อได้รายชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าวแล้ว ต้องมาตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินว่ามีการไปลงทุนทางธุรกิจหรือว่าเรื่องอะไร เมื่อได้ตรงนี้แล้ว จึงจะทราบว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่ เป็นทีละขั้นตอน อย่างไรก็ตามขณะนี้จึงบอกว่าอย่าเพิ่งไประบุชื่อหรืออะไร สื่อหลายสื่อไปลงว่าเป็นการฟอกเงิน พอเป็นฟอกเงินมันกลายเป็นเชิงลบไปเลย ทั้งนี้เราต้องเข้าใจ ให้เกียรติ และให้ความเคารพกับคนที่เขาไปทำ คือเราต้องมองในแง่บวกบ้าง เพราะบางทีมองและคิดว่าเขาไปทำในเชิงไม่ดี บางทีอาจเป็นเรื่องของการลงทุนระหว่างประเทศก็ได้ ดังนั้นต้องรอผลการตรวจสอบก่อน อย่าเพิ่งไปเปิดเผยรายชื่อ แต่แน่นอนทางราชการมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ปฏิบัติ ทั้งหมดต้องเป็นความลับในการเปิดเผยชื่อ เป็นไปตามหลักการ

“ส่วนคนที่มีรายชื่อ เขาก็ต้องออกมาปฏิเสธ อย่างที่บอกไงว่าชื่อที่มีการเผยแพร่อยู่นั้นเป็นชื่อจริงหรือไม่ ซึ่งไม่ได้เป็นข้อมูลข่าวกรอง แต่เป็นข้อมูลข่าวสารที่เราต้องรับฟังไว้ พอเราไปลงชื่อและมีการเผยแพร่ ถ้าไม่จริงเขาก็เสียหาย ทุกคนจะหลีกเลี่ยงการมีหรือไม่มี ไม่พ้นอยู่แล้ว แต่ทางต่างประเทศเขาจะตอบมาหรือไม่ ต้องรอฟังข้อมูลจากทาง ปปง. เพราะตนได้คุยกับทางเลขาธิการ ปปง. แล้ว กำลังตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ในการทำงานร่วมมือระหว่างประเทศอยู่” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เห็นรายชื่อ 21 คนของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แล้วหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็มี แต่ไม่อยากให้ไปสนใจเรื่องนี้ อยากให้ไปสนใจว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่อยู่นั้นเท็จจริงเป็นอย่างไรก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อาจเรียกประชุมศูนย์อำนวจการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ต้องรอให้ทาง ปปง. ได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อน