ตร.รับลูกรัฐบาล เอาจริง แก้จราจรจี้ 3 จุดย่านโรงเรียนกทม.รถหนึบ ดันกม.ตัดแต้ม เปิดประชาพิจารณ์ 7มิ.ย.

เมื่อเวลา11.20 น. วันที่ 18 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ(ผบช.สยศ.ตร.) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร และ พ.ต.อ.กิตติ อริยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร แถลงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการจราจรตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมวานนี้(17พ.ค.) โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน ตั้งเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการและแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นศูนย์ใหญ่เพื่อลดขั้นตอนการปฎิบัติงาน ซึ่งจากเดิมมีการแยกการแก้ไขปัญหา เพื่อประสานงานแก้ไขปัญหาการระบายรถโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ตั้งศูนย์ที่ บก.02 บก.จร.

พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวว่า สำหรับศูนย์ควบคุมสั่งการฯดังกล่าวมี พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ทำหน้าที่เป็นซีอีโอ โดยมี พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.)เป็นรองฯ มีตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้อง นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจังหวัด จากจ.ปริมณฑล ที่มีพื้นที่ต่อเนื่อง กทม.นั่งประจำ มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับจราจร ทั้ง กทม. กรมทางหลวง การทางเศษแห่งประเทศไทย กรมการขนส่ง ขสมก. นั่งประจำบริหารจัดการจราจรแบบบูรณาการ สามารถสั่งการแก้วิกฤติได้ทันท่วงที ยืนยันว่าแม้ศูนย์ดังกล่าวจะมีหลายหน่วยงาน แต่จะไม่มีการปัญหาในการสั่งการอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆก็มีการทำงานร่วมกัน มีความตั้งใจแก้ไขปัญหาร่วมกัน เชื่อว่าจะทำให้สภาพจราจรดีขึ้น

พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวว่า ศูนย์ควบคุมจราจรฯ จะเริ่มดำเนินการในวันจันทร์ ที่ 21 พฤษภาคม จะเริ่มดำเนินการวางแผนจัดการจราจรใน 3 เส้นทางหลัก เช่นถนนสามเสนและวงรอบ ถนนสาทร สีลมและวงรอบ และถนนสุขุมวิท-เพชรบุรี ซึ่งทั้งสามเส้นนี้มีปัญหาการจราจรมากสุดเนื่องจากมีสถานศึกษาจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด โดยจะมีการประเมินทุกสัปดาห์ เบื้องต้นมีการลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางก่อสร้างแนวรถไฟฟ้า โดยให้ กทม.สำรวจ และสั่งการเพื่อคืนผิวจราจรให้กับประชาชน เนื่องจากพบว่ามีการกั้นพื้นที่เกินความจำเป็น ส่วนมาตการรับมือหน้าฝนจะประสานกับสำนักงานระบายน้ำล่วงหน้าว่าจุดไหนมีปัญหาจะได้เตรียมพร่องน้ำไว้ก่อน เพื่อรองรับน้ำหากมีปัญหาน้ำท่วมขังจะได้ระบายได้ทันท่วงที และที่สำคัญย้่ำว่าปัญหาจราจรติดขัดในช่วงเช้าเย็น เนื่องจากผู้ปกครองมักจอดแช่ รับส่งบุตรหลาน ตรงนี้ต้องขอความร่วมมือเพื่อลดปัญหารถติด และจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เช่น ห้ามขับย้อนศร ไม่จอดทางม้าลาย และไม่สวมหมวกนิรภัย โดยจะเน้นใช้เทคโนโลยีมาจับ มากกว่าใช้เจ้าหน้าที่ โดยในช่วงเร่งด่วนเจ้าหน้าที่จะเน้นการอำนวยการจราจรเป็นหลัก แต่ในช่วงอื่นก็เน้นการบังคับใช้กฎหมายกวดขันวินัยจราจร โดยเฉพาะเรื่องที่หากละเมิดแล้วผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ปลอดภัย

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะประคณะทำงานฯ กล่าวว่าที่ประชุมวานนี้ มีการเสนอแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ เพื่อช่วยส่งเสริมวินัยจราร โดยจะนำวิธีการตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งส่งผลต่อการต่อใบขับขี่ โดยข้อมูลดังกล่าวจะลิ้งค์กับกรมการขนส่งทางบก เบื้องต้น กฎหมายังกล่าว ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยในวันมี่ 7 มิถุนายน จะมีการทำประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ที่สโมสรตำรวจ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตราเป็นกฎหมาย และประกาศใช้ต่อไป เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้ อย่างไรก็ตามปัญหาจราจรในกทม.ส่วนหนึ่งเพราะจำนวนรถที่เกินกว่าปริมาณที่ถนนในกทม.จะรับได้ ถนนในกทม.รับได้ 1.2 ล้านคัน แต่มีรถในกทม.มากถึง 6 ล้านคัน ทำให้ ศูนย์ฯต้องบริหารจัดการเพื่อบริหารถเข้า -ออก กทม. และปริมณฑลให้สอดคล้อง

Advertisement

ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า การทำงานของศูนย์ดังกล่าวนอกจากหน่วยงานต่างๆแล้ว จะมีบูรณาการโดยใช้กล้องวงจรปิดทั้งหมด 2,918 ตัว ในกทม.และปริมณฑล โดยเป็นกล้องของ กทม. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง ฯ มาช่วยควบคุมดูแลการจราจร ส่วนการนำระบบกล้องเลนส์เชนจ์มาใช้ในการควบคุมจราจร 15 จุด พบว่าครบ 1 สัปดาห์ กล้องสามารถบันทึกภาพผู้ฝ่าฝืนมีการฝ่าฝืนแล้ว กว่า 149,000 ราย ร้อยละ 58 เป็นรถจักรยานยนต์ แต่ในจำนวนนี้จะต้องไปตรวจดูว่าเป็นลักษณะเปลี่ยนช่องทางจราจาโดยผิดกฎมายหรือไม่ เนื่องจากกล้องมีความไวมาก บางครั้งแต่บางส่วนของรถ หรือร่างกายคน สัมผัส ข้ามเลนก็บันทึกข้อมูลแล้ว ตรงนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องแยกแยะและตรวจสอบผู้กระทำผิดจริงเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image