ญาติเหยื่อพลทหารชี้อย่าโยนบาปเป็นฝ่ายผิด โอดเรือนจำดีกว่าค่ายทหาร ข้องใจทำกันถึงตาย

กรณี พลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี ทหารเกณฑ์สังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่ถูกนายทหารมากกว่า 6 นาย ทำโทษเนื่องจากกระทำความผิดทางวินัย จนบาดเจ็บสาหัส และส่งตัวมายังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ในสภาพบอบช้ำจากการถูกทำร้ายใช้ไม้ตี เนื่องจากมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง เลือดออกในสมอง ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ก่อนจะเสียชีวิต ทางญาติได้นำศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดเสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

ล่าสุดวันที่ 6 เมษายน 2559 บรรยากาศโดยทั่วไปที่วัดเสาเภา ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของพลทหาร ทรงธรรม หมุดหมัด อายุ 23 ปี ทหารเกณฑ์สังกัด ร.152 พัน 1 ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีสื่อมวลชน ตลอดจนหน่วยงานราชการและประชาชนที่ทราบข่าว ได้เดินทางเข้ามาในวัดจำนวนมาก ท่ามกลางความเศร้าโศกของเหล่าบรรดาญาติที่ทยอยเดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศลศพในครั้งนี้

นางวิจิตรา ช่อมณี มารดาของพลทหารทรงธรรม กล่าวว่า ตนจะไม่รั้งศพลูกไว้ ตนจะเผาศพตามกำหนดเวลา คือวันที่ 10 เมษายน 2559 นี้ ส่วนการดำเนินคดีตามกฎหมายก็ว่ากันไป แต่ขอให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อย่ามาซัดว่าลูกตนเองเป็นคนผิดฝ่ายเดียว ครอบครัวตนไม่ได้เรื่องมากแต่อย่างใด

ญาติคนหนึ่งเปิดเผยว่า เพื่อนของหลานชายได้เล่าให้ตนฟังว่า สาเหตุที่แท้จริงมาจากเงินจำนวน 5,000 บาท ที่นายสิบคนหนึ่งมาเอาไปซึ่งเป็นของพลทหารทรงธรรม ซึ่งพลทหารทรงธรรมตามไปทวงเอาคืนมา แต่นายสิบคนดังกล่าวไม่คืนให้ จนถึงขั้นชกต่อยจากนั้นก็ได้มีการรุมทำร้ายจนอาการสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด

“ตนอยากบอกว่า ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม จะว่าหลานตนเองติดยาเสพติด หรือไม่อย่างไรก็ไม่สมควรที่จะทำร้ายถึงขั้นต้องเสียชีวิต ผิดก็ว่ากันไป ค่ายทหารมิใช่เรือนจำ เรือนจำยังมีคุณธรรมดีเสียกว่าค่ายทหาร ซึ่งใช้กฎหมู่ที่มีกฎหมายควบคุม แต่เรือนจำมีกฎหมู่ที่ไม่มีกฎหมายควบคุมคนใช้คือนักโทษ แต่ทหารคือคนที่ได้ชื่อว่ามีคุณธรรม เอาให้ตายกันเชียวหรือ หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น ตนเชื่อว่าทหารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกทำโทษเหมือนตายทั้งเป็น ต้องประจานให้รู้กันทั่ว วันนี้ทำได้ วันต่อไปก็ต้องทำได้ สงสารพลทหารรุ่นต่อๆ มาที่จะต้องถูกทำร้ายจนเสียชีวิต”

ADVERTISMENT