เปิดประวัติ ‘พุทธะอิสระ’ เส้นทางธรรม-การเมือง ก่อนถูกจับข้อหา ‘อั้งยี่-ซ่องโจร’

เป็นคดีที่คนทั่วทั้งประเทศต่างจับตามอง เมื่อ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีต พระพุทธะอิสระ ถูกตำรวจบุกเข้ารวบตัวในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 25 พฤษภาคม ที่วัดอ้อน้อย ในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และปลอมพระปรมาภิไธย นำมาสู่การฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งยังต้องถอดจีวร เปลี่ยนไปใส่ชุดขาวอีกด้วย

ทำให้ชาวเน็ตต่างขุดค้นประวัติที่ผ่านมาของ นายสุวิทย์ เมื่อยังเป็นหลวงปู่พุทธอิสระ

จากเว็บไซต์ของวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เผยว่า ชื่อ “พุทธะอิสระ” หมายความว่า “พุทธะ” แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ย่อมมีเสรีภาพอิสระต่อตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ ไม่ทำอารมณ์ให้เป็นอะไร เพราะเรามีธรรมะในหัวใจ ย่อมอิสระกับทุกเรื่องที่พบพานเจอะเจอและเห็น

นอกจากนี้ยังมีคนเคยถามเสมอว่า เหตุใด จะต้องใช้คำว่า หลวงปู่ ซึ่งอดีตพระพุทธะอิสระ มันตอบด้วยภาษิตโบราณว่า “คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นานคนจะรวย รวยศีล รวยทาน ใช่บ้านโต”

Advertisement

ทั้งนี้ นายสุวิทย์ ได้รับฉายาว่า พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม เป็นชาวกรุงเทพฯโดยกำเนิด บรรพบุรุษตั้งรกรากอยู่ที่จ.นครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2499 โดยเรียนไม่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ขณะที่ทางธรรม จบนักธรรมเอก บวชครั้งแรกเมื่ออายุ 20 ปี ที่วัดคลองเตยใน กรุงเทพฯ โดยมีพระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชได้เพียง 1 พรรษา ก็สึกไปเป็นทหาร 2 ปี หลังจากนั้นจึงกลับเข้ามาบวชใหม่ที่วัดเดิม เมื่อวัน 16 มกราคม 2526 บวชได้ 6 ปี จึงมาสร้างวัดอ้อน้อย ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี 2532 โดยมี ทองห่อ วิสุทธิผล เป็นผู้บริจาคที่ดินให้ เมื่อสร้างวัดเรียบร้อยจึงได้ออกธุดงค์เป็นเวลา 5 ปี

ในช่วงปี พ.ศ.255-2557 อดีตพระพุทธอิสระ ถือได้ว่าเป็นแกนนำคนสำคัญของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข[6] หรือ ชื่อเดิม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือกปปส. ในการชุมนุมขับไล่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยได้ขึ้นเวทีแสดงธรรม หลายครั้ง ทั้งยังเป็นผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังสถานที่ต่างๆด้วยตัวเอง

และเป็นผู้นำปราศรัยบนเวที แจ้งวัฒนะ

Advertisement

โดยในวันที่ 14 พ.ค. 2557 อดีตพระพุทธอิสระ มีชื่อเป็นผู้ต้องหาคดีกบฎ และข้อหาอื่น 8 ข้อหา ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คน

ก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image