ฉาว! ตร.จ่อเรียกสีกา ร้านสังฆภัณฑ์สนิท ‘พระพรหมดิลก’ สอบ ปูด ‘พระพรหมเมธี’ อมเงิน 5 ล้าน

(จากซ้าย) พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) -พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม)

ความคืบหน้าตำรวจบุกเข้าตรวจค้น 3 วัดดังในกรุงเทพฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วยวัดสระเกศราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และวัดสามพระยาวรวิหาร โดยควบคุมตัวพระรวม 5 รูปทำการลาสิกขา พร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปแล้วนั้น โดยพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 และพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 หลบหนีไปได้ และคดีจับกุมพระพุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรและปลอมพระปรมาภิไธย

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบเร่งสืบสวนติดตามจับกุม 2 พระผู้ใหญ่ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. จัดชุดสืบสวนติดตามตัว พระพรหมสิทธิ ที่น่าเชื่อว่าจะยังคงซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และมอบหมายให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. นำทีมสืบสวนติดตามตัว พระพรหมเมธี โดยพระพรหมเมธี นั้น จากการสืบสวนมีการคาดกันว่าอาจจะหลบหนีด้วยการพรางตัวในชุดฆราวาสก็เป็นได้ ทั้งนี้ ในส่วนของการสืบสวนขยายผลนั้นมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนว่า นอกจากพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งสามรูปประกอบด้วย พระพรหมดิลก ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้แล้ว พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี สองผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี จะมีความผิดฐานฟอกเงินกรณีทุจริตเงินทอนวัดแล้วยังพบว่าพระผู้ใหญ่ทั้ง 3 รูปพัวพันกับการวิ่งเต้นการเลื่อนตำแหน่งหรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การปกครองด้วย โดยเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะกรณีของ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานครนั้น ในวันที่ตำรวจกองปราบปรามบุกเข้าจับกุมตัวและตรวจค้นภายในกุฏิได้พบเอกสารที่เกี่ยวกับการเลื่อนสมณศักดิ์ของพระสงฆ์จำนวนหลายรูป ซึ่งตรงกับแนวทางการสืบสวนที่พบว่าพระที่ปรากฏในเอกสารที่ยึดได้บางรูปนั้นเกี่ยวพันกันกับการวิ่งเต้นเพื่อขอเลื่อนสมณศักดิ์ในแต่ละปีอีกด้วย

สีกาสังฆภัณฑ์สนิทเจ้าวัดสามพระยา

แหล่งข่าวในชุดสืบสวนกล่าวว่า จากการสืบสวนในส่วนของวัดสามพระยาทราบว่า พระพรหมดิลก นั้นมีความสนิทสนมกับโยมสีกาเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ที่ค้าขายเกี่ยวกับเครื่องอัฐบริขารใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยตรวจสอบรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างสีกาเจ้าของร้านกับพระพรหมดิลกพบว่า มีความใกล้ชิดกันมาก ทำให้สีกาคนนี้เข้านอกออกในกุฏิของพระพรหมดิลกได้มานานมากกว่า 10 ปี ล่าสุดสีกาคนนี้ได้ส่งลูกเขยคนหนึ่งมาบวชที่วัดสามพระยาเพื่อดูแลปรนนิบัติดูแลพระพรหมดิลกโดยตรง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบการเดินทางในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าสีกาคนดังกล่าวเดินทางไปต่างประเทศกับพระพรหมดิลกมากกว่า 10 ครั้ง แต่ละครั้งมีการระบุที่นั่งคู่กันอย่างสม่ำเสมอแม้ว่าสีกาคนนี้จะมีครอบครัวแล้วก็ตาม นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังพบว่าบัญชีของสีกายังมีความสัมพันธ์ในการโยกย้ายถ่ายเงินกับวัดสามพระยาและวัดอื่นๆภายใต้การปกครองของพระพรหมดิลกด้วย

Advertisement

 วัด10แห่งสั่งซื้อสังฆภัณฑ์นับ10ปี

แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากพบความสัมพันธ์ทางการเงินชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบรายละเอียดและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องบางคนจนพบว่า มีวัดอย่างน้อยประมาณ 10 แห่งในเขตกรุงเทพฯที่สั่งซื้อเครื่องสังฆภัณฑ์จากร้านของสีกาคนนี้อย่างต่อเนื่อง มานานนับสิบปีทั้งใช้เงินของวัดเองที่ได้รับจากการบริจาคและเงินที่ได้รับอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และวัดแต่ละแห่งที่มีการสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องนั้นเจ้าอาวาสผู้ปกครองวัดหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาสก็มีความสนิทสนมกับพระพรหมดิลก และพระอรรถกิจโกศล เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ ที่ถูกจับกุมพร้อมกับพระพรหมดิลกด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่าพระสงฆ์ที่สั่งซื้อสินค้าจากร้านสังฆภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ตั้งแต่ระดับเจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไปอย่างต่อเนื่องในรอบเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การสืบสวนยังพบว่ายังคงมีอีกหลายวัดในกรุงเทพฯสั่งซื้อสินค้าจากร้านสังฆภัณฑ์นี้ แม้ว่าวัดจะไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก็ตาม โดยมีการติดต่อผ่านพระอรรถกิจโกศลที่ทำหน้าที่เลขานุการ

Advertisement

เล็งเรียกสีกา-เจ้าคุณชั้นสามัญสอบ

ข่าวแจ้งว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะมีการเรียกโยมสีกาคนนี้พร้อมด้วยสามีมาสอบปากคำหรือไม่ และหากมีหลักฐานเพียงพอในการกระทำความผิดก็อาจจะพิจารณาออกหมายจับเพิ่มเติม รวมทั้งพระสงฆ์บางรูปตั้งแต่ระดับเจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไปที่พบความเกี่ยวพันก็อาจจะถูกเรียกตัวมาสอบปากคำด้วย เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นจะมีการส่งบันทึกการสืบสวนทั้งหมดที่เกี่ยวกับหลักฐานที่เชื่อว่ามีการวิ่งเต้นตำแหน่งหรือสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระพรหมดิลกไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เพื่อส่งต่อไปยังมหาเถรสมาคมเพื่อพิจารณถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของพระสงฆ์แต่ละรูปต่อไป

ปูดพระพรหมเมธีอมเงิน5ล้าน

ข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกรณีที่ทำให้พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ถูกกองปราบฯเสนอศาลอาญาออกหมายจับนั้น เนื่องจากตรวจสอบพบว่าพระพรหมเมธีได้ทุจริตโอนเงินงบประมาณการจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม 5 ล้านบาท ที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มอบให้กับทางวัดโดยอาศัยช่วงที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร) เจ้าอาวาสกำลังอาพาธอยู่ และเป็นช่วงที่ตัวเองได้เข้ามาดูแลบริหารจัดการทุกอย่างภายในวัดแทนชั่วคราว ทำการโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าสู่บัญชีธนาคารส่วนตัวของตนเองเพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว และพบว่ามีการโอนให้กับสีกาคนสนิทด้วย โดยที่ไม่ได้นำไปใช้ในการจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรมตามที่สำนักพุทธฯมอบหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image