‘หวย 30 ล้าน’ส่งสำนวนผู้การสุทธิพ่วงคดี’ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น’ให้พนง.สส.ส่งอัยการภ.7สั่งคดี

รองโฆษกอัยการ เผย หลัง ป.ป.ช.ตีกลับสำนวน”ผู้การสุทธิ” เเก้สำนวนหวย30ล้านต้อง พ่วงสำนวน “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น”ให้พนักงานสอบสวนส่งอัยการปราบปรามทุจริตภาค7 พิจารณาสั่งคดี

จากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณา คดีที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งสำนวนคดีที่กล่าวหา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการ จ.กาญจนบุรี ปฎิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ให้เรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป ตามมาตรา 89/2แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีนี้ว่าในส่วนสำนวนของ นายปรีชา หรือครูปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี และ นางรัตนา หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ที่ตกเป็น ผู้ต้องหาที่ 1-2 ในความผิด 3 ข้อหา ฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายและรู้ว่ามิได้กระทำผิดเกิดขึ้น , ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด โดยเป็นการแจ้งเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ
เเละ ยังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะร่วมสนับสนุน พล.ต.ต.สุทธิ เป็นเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้นเมื่อคดีหลัก ปปช.มีมติให้คืนสำนวนมา สำนวนก็จะต้องคืนมาทั้งหมด รวมทั้งสำนวนที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปรามปรามได้กล่าวหาครูปรีชากับพวกที่ถูกส่งไปยัง ป.ป.ช.ด้วย เเละเมื่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปรามรับสำนวนครูปรีชากลับมาเเล้ว ก็จะต้องดูว่าสำนวนการสอบสวนนั้นมีความสมบูรณ์หรือยัง ถ้าพบว่าพยานหลักฐานสมบูรณ์เเล้วก็จะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งให้อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 เนื่องจากเป็นเหตุเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งฟ้องคดีต่อศาลอาญาทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค7ต่อไป

นายประยุทธ ยังได้อธิบายต่อว่าตามหลักเเล้ว ในส่วนข้อหาคดีของนายปรีชานั้นจะอยู่ในอำนาจของอัยการสำนักงานคดีอาญา เเต่เมื่อปรากฎว่าการเเจ้งความเท็จของ นายปรีชา เเละการเเก้สำนวนของ พล.ต.ต.สุทธิ นั้นล้วนมีเจตนาเดียวกันคือ เจตนาที่จะประสงค์เอาเงินลอตเตอรี่ กฎหมายจึงถือว่าเป็นเรื่องเดียวกันเเละต้องรวมสำนวนพิจารณาเข้าด้วยกัน เเละให้ส่งไปรวมที่ ป.ป.ช.เเต่เมื่อ ปปช.ประชุมเเล้วมีมติว่าคดีนี้พนักงานสอบสวนทำไปเยอะเเล้วก็เลยอาศัยความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 89/2แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542ให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ทำสำนวนต่อไป ซึ่งเรื่องคดีหวยนี้ พนักงานสอบสวนที่ดูสำนวน พล.ต.ต.สุทธินั้น จะเป็น ปปป. ส่วนสำนวนครูปรีชาจะเป็นกองบังคับการกองปราบปราม ซึ่งสุดท้ายเเล้วหน่วยงานใดจะเป็นผู้รวมสำนวนทั้งหมดส่งให้อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 ก็ต้องขึ้นอยู่กับกองบัญชาการสอบสวนกลางจะพิจารณาต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image