เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รองผบก.ป.พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ รองผกก.(สอบสวน)กก.6บก.ป.ร่วมแถลงจับกุม น.ส.จารี หรือ อิสรีพร พรหมจันทร์ อายุ 52 ปี น.ส.สุพรรณีย์ วาสิน อายุ42ปี น.ส.สุนารี มณีโชติ อายุ 30 ปี นายเอกชัย แก้วกำเนิด อายุ 47 ปี และน.ส.มธุรดา ดีมีศรี อายุ36 ปี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 314-318 /2559 ลงวันที่ 5เมษายน 2559 ในข้อหา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม
พ.ต.ท.ธราดล กล่าวว่า สืบเนื่องจากอดีตอาจารย์ 2 ระดับ 7(ไม่เปิดเผยชื่อ) อายุ 72 ปี ชาว อ.เกาะสมุย ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกก.6บก.ป.หลังถูกน.ส.จารีและพวกฉ้อโกง โดยน.ส.จารีมีความสนิทสนมกับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ต่อมาได้อ้างกับผู้เสียหายว่าขอยืมโฉนดที่ดินไปวางประกันตัวลูกชายที่ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงให้ที่ดินใน อ.เกาะสมุย 2 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 28 ล้านบาท ไป แต่กลุ่มผู้ต้องหากลับนำที่ดินทั้ง 2 แปลง ไปทำนิติกรรมโอนขายฝากให้กับนายทุนรับซื้อขายฝาก ที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 26-27 มีนาคม 2558 ตำรวจจึงสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็น “แก๊งค์ตกโฉนด” รายใหญ่ ใน อ.เกาะสมุย มีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูกกลุ่มแก๊งนี้หลอกลวงเอาโฉนดไปโดยวิธีการต่างๆ อาทิเช่น หากผู้เสียหายต้องการขายที่ดิน กลุ่มแก๊งนี้จะหลอกผู้เสียหายให้นำโฉนดที่ดินพร้อมหนังสือมอบอำนาจมาให้โดยบอกว่าจะนำไปทำพิธีกรรมเพื่อให้ขายได้ จากนั้นนำไปโอนขายฝากให้กับนายทุนกลุ่ม เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะทำนิติกรรมอำพรางโดยการจดทะเบียนซื้อขายเสร็จเด็ดขาด แต่แท้จริงแล้วเป็นการขายฝาก และจะหลบเลี่ยงภาษีโดยเชื่อว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น
พ.ต.ท.ธราดล กล่าวอีกว่า เฉพาะรายผู้เสียหายนี้ ที่ดิน 2 แปลง ราคาซื้อขายที่แท้จริงที่มีการโอนเงินผ่านธนาคาร รวม 2 แปลง 12.5 ล้าน แต่แจ้งต่อ สำนักงานที่ดิน เพียง 1.5 ล้านบาท โดย เจ้าหน้าที่ที่ดิน ประเมินราคาที่ดินให้เจือสมกับราคาที่แจ้ง รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีจากเงินจำนวน 11 ล้านบาท หากคำนวณเป็นภาษีที่ต้องจ่ายให้รัฐคือ 5.5แสนบาท
ขณะที่ผู้ต้องหาให้การอ้างว่าผู้เสียหายเป็นหนี้พวกตนจำนวน 8 แสนบาท โดยนำโฉนดที่ดินมาค้ำประกันไว้ และกำหนดจะชำระหนี้ภายใน 10วัน หากเลยกำหนด ผู้เสียหายอนุญาตให้นำโฉนดไปขายฝากได้ทันที ซึ่งก็เป็นไปตามข้อตกลง เพราะครบวันกำหนดนัดผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้พวกตนได้
อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การผู้ต้องหา พร้อมจะเร่งขยายผลผู้เกี่ยวข้องที่เป็นนายทุนรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะมีส่วนรู้เห็น เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป