เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ(พช.) พระนคร นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการประชุมสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการบริการออกใบอนุญาตส่ง และนำโบราณวัตถุศิลปวัตถุออกนอกราชอาณาจักร (National Single Window & ASEAN Single Window)” ว่า กรมศิลปากรจัดประชุมสัมมนาระหว่างกรมศุลกากร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และผู้ประกอบการที่จะดำเนินการออกใบอนุญาต นำโบราณวัตถุศิลปวัตถุออกนอกราชอาณาจักร และนำโบราณวัตถุศิลปวัตถุเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งการนำเข้าและนำออกโบราณวัตถุศิลปวัตถุ เป็นภารกิจหนึ่งของกรมศิลปากร ที่ต้องเข้าไปควบคุมดูแลโบราณวัตถุศิลปวัตถุ เพื่อป้องกันการลักลอกนำเข้าและส่งออกอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ในสมัยก่อนการออกใบอนุญาตใช้ระบบกระดาษ และผู้ประกอบการต้องนำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุมาให้ทางกรมศิลปากรตรวจสอบ เพื่อออกใบอนุญาต ซึ่งทำให้ใช้เวลาหลายวัน ดังนั้น กรมศุลกากรจึงร่วมกับกรมศิลปกากร นำระบบอิเล็กทรอนิกส์ มาจัดทำระบบนำเข้าส่งออก เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งระบบนี้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าและส่งออกโบราณวัตถุศิลปวัตถุ โดยส่งรูปถ่ายมาให้กรมศิลปากรตรวจสอบ และชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางธนาคาร
นายอนันต์ กล่าวว่า ในการส่งออกนำเข้าโบราณวัตถุศิลปวัตถุ ในระบบใหม่ยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากการใช้ระบบนี้ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องนำโบราณวัตถุศิลปวัตถุมาให้กรมศิลปากรตรวจสอบ จึงทำให้มีผู้ประกอบการบางรายลักลอบสอดแทรกนำวัตถุโบราณเข้าไปปะปนอยู่กับศิลปะวัตถุ โดยปี 2558 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการประมาณ 20 รายที่ลักลอบส่งออกวัตถุโบราณ แต่ถูกจับได้ที่ประเทศต้นทาง ซึ่งผู้ที่ถูกจับได้จะโดนยึดวัตถุโบราณเป็นของแผ่นดินและต้องโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 7 แสนบาท และจำคุกไม่เกิน 7 ปี อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรกำลังหามาตรการป้องกันเรื่องดังกล่าวอยู่ นอกจากนี้การนำเข้าและส่งออกโบราณวัตถุศิลปวัตถุ ในปี 2558 พบว่า อันดับ 1 ที่ส่งออกคือพระพุทธรูป มีจำนวน 11,851 องค์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการส่งออกเพื่อการสักการะบูชา ทั้งนี้ การส่งออกนำเข้าโบราณวัตถุศิลปวัตถุ แม้จะไม่จำกัดจำนวน แต่ผู้ประกอบการจะไม่สามารถนำไปเพื่อการพาณิชย์ได้ และนอกจากนี้โบราณวัตถุศิลปวัตถุที่ส่งออกต้องมีอายุระหว่างพ.ศ.2490-2559(69 ปี)
“สำหรับการประชาสัมพันธ์ การนำเข้าส่งออก โบราณวัตถุศิลปวัตถุสำหรับนักท่องเที่ยว กรมศิลปากร ได้จัดทำโปชัวร์ไว้ที่ด่านศุลกากรทุกสนามบิน และชี้แจงผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายโบราณวัตถุศิลปวัตถุ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการนำเข้าส่งออกโบราณวัตถุศิลปวัตถุ ซึ่งในโปชัวร์มีขั้นตอนการนำเข้าส่งออกโบราณวัตถุศิลปวัตถุและข้อห้ามที่ไม่สามารถอนุญาตส่งหรือนำออกราชอาณาจักรได้ อาทิ ชิ้นส่วนพระพุทธรูปเคารพในพระพุทธศาสนาที่สร้างไม่ครบองค์ประกอบ เป็นต้น จะไม่สามารถนำเข้าส่งออกได้” นายอนันต์ กล่าว