สภาบริหาร PISA มีมติเอกฉันท์ ขยายระยะห่างรอบการประเมินทุก 4 ปี จากเดิม 3 ปี
รศ.ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่า กรณีที่ สสวท.ทำหน้าที่เป็นศูนย์ดำเนินงาน PISA แห่งชาติของไทย ดำเนินงานโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (PISA) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาในการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนมีศักยภาพ หรือความสามารถพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการประเมินปัจจุบัน คือ PISA 2022 เน้นการประเมินความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ และประเมินเพิ่มเติมด้านความคิดสร้างสรรค์ สำหรับการดำเนินงาน PISA 2022 ของไทย ได้เก็บรวบรวมข้อมูลรอบการวิจัยหลักเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนกลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมการประเมินดังกล่าว 8,509 คน จาก 280 โรงเรียน ทั่วประเทศทุกสังกัดการศึกษา ซึ่งจะเผยแพร่ผลการประเมินด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ของ PISA 2022 ในเดือนธันวาคม และเผยแพร่ผลการประเมินด้านความคิดสร้างสรรค์ ในเดือนธันวาคม 2567
“สำหรับรอบการประเมินถัดไปคือ PISA 2025 จะเน้นการประเมินความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์เป็นหลัก และประเมินเพิ่มเติมด้านการเรียนรู้ในโลกดิจิทัล โดยจะจัดสอบรอบทดลองใช้เครื่องมือในปี ค.ศ.2024 และสอบรอบ Main Survey ปี ค.ศ.2025 สำหรับไทยการประเมิน PISA 2025 จะจัดสอบรอบทดลองใช้เครื่องมือในเดือนสิงหาคม 2567 และจัดสอบรอบการวิจัยหลักในเดือนสิงหาคม 2568” รศ.ดร.ธีระเดช กล่าว
รศ.ดร.ธีระเดชกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในการประชุมสภาบริหารของโปรแกรม PISA (PGB) ครั้งที่ 54 วันที่ 2-4 พฤศจิกายน ในรูปแบบผสมผสานที่กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้น ได้พิจารณาความถี่ในการจัดสอบ PISA หลังจากรอบการประเมิน PISA 2025 ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน จากการหารือร่วมกันของทุกประเทศในกลุ่ม OECD และประเทศสมาชิกสมทบ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขยายระยะห่างของแต่ละรอบการประเมินเป็นทุก 4 ปี จากเดิมที่มีการประเมินทุก 3 ปี เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์แห่งชาติ โดยยังคงรักษามาตรฐานของการประเมินระดับนานาชาติร่วมกัน ดังนั้น รอบการประเมินถัดจาก PISA 2025 จะเป็น PISA 2029 ซึ่งเน้นการประเมินความฉลาดรู้ด้านการอ่านเป็นหลัก