ร.ร.เอกชนห่วงร่าง พ.ร.บ.ศึกษา-กยศ.หวั่น ‘ยุบสภา’ ทำกฎหมาย 2 ฉบับแท้ง กระทบผู้เรียนนอกระบบเสียโอกาส
ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ ประเทศไทย (ส.น.อ.) จัดประชุมขับเคลื่อนบูรณาการการศึกษาเอกชนนอกระบบ สู่อนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งในที่ประชุมได้หารือในหลายประเด็น เช่น ร่วมกันพิจารณาว่าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ จะส่งผลกระทบกับการศึกษาเอกชนนอกระบบอย่างไร และร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งร่าง พ.ร.บ.กยศ.ฉบับใหม่ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ผู้เรียนโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ที่ต้องการฝึกอาชีพระยะสั้น สามารถกู้ยืมเงิน กยศ.ได้ด้วย ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนหลักสูตรระยะสั้น สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อพัฒนาตนเอง
“โรงเรียนเอกชนกังวลว่า ขณะนี้ภาวะทางการเมืองมีความไม่แน่นอน หากยุบสภาก่อนร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับคลอดไม่ทัน โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.กยศ.ที่การศึกษาเอกชนนอกระบบกังวลอย่างมาก เนื่องจากอาจจะพิจารณาเสร็จไม่ทันรัฐบาลนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เรียนการศึกษานอกระบบจำนวนมาก ที่จะเสียโอกาสในการเรียน” ดร.ศุภเสกฐ์ กล่าว
ดร.ศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. … ในวาระ 2 และ 3 หาก พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ จะส่งผลต่อการจัดการศึกษาเอกชนนอกระบบด้วย ทั้งนี้ โรงเรียนเอกชนนอกระบบ อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวอีกครั้ง ว่าการศึกษานอกระบบ จะสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างไร ทั้งนี้ อยากเสนอให้รัฐบาลตั้งงบประมาณมอบคูปองให้คนไทยทุกคน โดยอาจจะสนับสนุนคูปองคนละ 500 บาท ให้ประชาชนมาเรียนการศึกษานอกระบบ เพื่ออัพสกิล หรือรีสกิล ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้ตลอดชีวิตอีกทางหนึ่ง
“นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการหามาตรการควบคุมโรงเรียนนอกระบบเถื่อน ที่ปัจจุบันมีจำนวนมาก ว่ามีระเบียบอะไรที่ยังล้าหลังอยู่ และควรปรับระเบียบเหล่านั้นอย่างไร เพื่อให้โรงเรียนนอกระบบที่ยังไม่ได้จดทะเบียน เข้ามาจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งจะทำให้ สช.สามารถควบคุมคุณภาพโรงเรียนนอกระบบเหล่านี้ได้ อีกทั้ง ควรจะต้องรวบรวมข้อมูลโรงเรียนนอกระบบทั้งหมดเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยให้ สช.ตรวจสอบโรงเรียนง่ายขึ้น ทั้งนี้ ยังหารือเรื่องภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ที่โรงเรียนเอกชนนอกระบบบางประเภทยังไม่ได้รับการยกเว้นภาษี และในปี 2566 ทราบว่ากระทรวงมหาดไทย (มท.) จะปรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชนในระบบ และนอกระบบอย่างมาก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าใจ และเห็นใจให้ยกเว้น หรือลดภาษีให้โรงเรียนเอกชนใน และนอกระบบ” ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว