ปชป.โชว์วิสัยทัศน์การศึกษา ถ้าได้เป็นรัฐบาล ให้เด็กไทยเรียนฟรีถึง ป.ตรี
นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค และกรรมการด้านเทคโนโลยี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในการเสวนา “นโยบายแบบไหน เปลี่ยนการศึกษาไทยได้จริง” ในเวที TEP Forum 2023 ชวนพรรคร่วมคิด ฟื้นชีวิตเรียนรู้ใหม่ หนุนเด็กไทยก้าวทันโลก พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ ร่วมกับตัวแทนจากพรรคการเมืองอีก 7 พรรค เพื่อร่วมกันคิดฟื้นชีวิตการเรียนของเด็กไทย ให้สามารถก้าวทันโลกได้ จัดโดยภาคีเพื่อการศึกษาไทย (Thailand Education Partnerships : TEP) และ Thai PBS ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ข้อเสนอที่ทางภาคีเพื่อการศึกษาไทยฝากไว้ในเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลาง จะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มสมรรถนะเด็กไทย สร้างการมีส่วนร่วมของครู และการปรับปรุงระบบการประเมินเพื่อตอบโจทย์อนาคตของเด็กไทยมากขึ้นนั้น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สมาชิก ปชป.ได้ทำตามรูปแบบของ TEP ทั้งหมด ลงไปในพื้นที่นวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญ และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ภาคประชาชนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ภาครัฐถ้ามีอำนาจเต็ม จะต้องเปิดทางทำในส่วนนี้ให้หมด
“ขณะนี้ สสวท.ที่กำกับดูแลอยู่ มีคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน เข้าไปทำหลักสูตรในเชิงนวัตกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ว่าจะนำไปใช้อย่างไรให้เร็วที่สุด ซึ่งถ้า ปชป.มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะเปิดทางให้ดำเนินการทั้งหมด ที่ผ่านมาเราทำในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างทั้งหมดทางเครือข่ายภาคประชาชนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ภาครัฐที่มีอำนาจเต็ม ต้องเปิดทางให้ส่วนพวกนี้เข้าไปทำให้หมด ในพื้นที่นวัตกรรม เป็น พ.ร.บ.นวัตกรรม มีความพยายามจะยุบ พ.ร.บ.นี้ และยังไปชะลอ พ.ร.บ.ตัวใหม่ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ออก มี 10 กว่ามาตราที่ผ่าน ยังเหลืออีกกว่า 100 มาตรา ตรงนี้เป็นหลักสำคัญจะนำไปสู่การปรับโครงสร้าง และทำหลักสูตรใหม่ ซึ่งจะมีองค์กรมหาชนเกิดขึ้น 3 องค์กร องค์กรหนึ่งจะเป็นองค์กรที่ทำหลักสูตรโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าผม หรือ ปชป.มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะเปิดไฟเขียวตรงนี้ให้หมด” นายภูมิสรรค์กล่าว
นายภูมิสรรค์กล่าวต่อว่า ไทยมีการศึกษาที่มีคุณภาพ อยากให้ทุกคนได้ลงไปดูพื้นที่นวัตกรรม ซึ่งนักศึกษาที่ไปเรียนต่างประเทศ และได้ไปดูพื้นที่นวัตกรรมที่ จ.ระยอง บอกว่าถ้ารู้ว่าไทยมีการศึกษาแบบนี้ จะเรียนที่ไทย โดยปัจจุบันพื้นที่นวัตกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากเดิมมี 9 พื้นที่นวัตกรรม เพิ่มเป็น 19 พื้นที่นวัตกรรม
นายภูมิสรรค์กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอในเรื่องการป้องการการละเมิดสิทธิเสรีภาพ และการใช้ความรุนแรงในสถานศึกษานั้น ยืนยันว่าเมื่อใครทำผิดต้องลงโทษไปตามกฎหมาย ตอนนี้มีหลักสูตรสิทธิมนุษยชน จะเอามาอบรมครู รวมถึงนักเรียนร่วมกันในเชิงวิพากษ์ และใช้ขบวนการ CODING เข้ามาจับ ซึ่งคุณหญิงกัลยาได้ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล การเปลี่ยนจาก STEM เป็น STEAM ซึ่งทั้งหมดได้เข้าไปอยู่ในระบบการศึกษาไทยทั้งหมดแล้ว รวมถึง โครงการ “คนละเครื่อง พี่แบ่งให้…น้องได้เรียน” ที่คุณหญิงกัลยาได้ริเริ่มเพื่อรณรงค์แบ่งปัน Smart Device ให้กับโรงเรียน และนักเรียนที่ขาดแคลน เป็นการสร้างการศึกษาไทยให้เท่าเทียม
“ทั้งนี้ ปชป.ได้เดินหน้าชูยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สำหรับนโยบายด้านการศึกษานั้น ถ้า ปชป.ได้เป็นแกนนำ รัฐบาลจะประกาศให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี เมื่อจบออกมาแล้ว มีงานรองรับ อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน เพื่อให้ทุกห้องเรียนได้เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ และเรียนในระบบดิจิทัลได้ อีกทั้ง ทำให้ประชาชนในหมู่บ้าน หรือชุมชนเข้าถึงแหล่งข้อมูล และทำการค้าขายออนไลน์ได้ เพื่อสร้างเงินให้กับตัวเอง สร้างคนให้ประเทศผ่านระบบการศึกษาตลอดชีวิตด้วย รวมถึง ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เด็กไทยต้องได้ดื่มนมทุกวัน” นายภูมิสรรค์กล่าว