ว.นวัตกรรมฯ จับมือแบงก์ออมสิน เวิร์คช็อปผู้ประกอบการอาหาร-เกษตร-สุขภาพ
ดร.รชฏ ขำบุญ คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมบริหารธุรกิจและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับ CIBA จัดโครงการอบรมให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ Step & Boost Up Program ประจำปี 2566 เพื่อพัฒนา และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs OTOPs และ Startups ให้มีความรู้ความสามารถในการสร้างธุรกิจในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการนำนวัตกรรม และแนวคิดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมถึง เพื่อให้เกิดตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ ด้านการพัฒนาธุรกิจและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของโครงการ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ Start up ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ที่ดำเนินธุรกิจด้านธุรกิจอาหาร ธุรกิจสุขภาพ และธุรกิจการเกษตร รวมทั้ง ผู้สนใจที่จะดำเนินธุรกิจดังกล่าวไม่น้อยกว่า 500 ราย
“สภาวการณ์ทางธุรกิจที่ผันผวน ทั้งจากสภาพสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้วิถีทางสังคม และพฤติกรรมของประชาชนคนไทย และทั่วโลกเปลี่ยนไปอย่างมาก ส่งผลให้เกิดเงื่อนไขการทำธุรกิจที่ยากขึ้นแบบทวีคูณ ทั้งการแข่งขันที่มีคนเข้ามาทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และเทคโนโลยีที่ปรับไปอย่างรวดเร็ว” ดร.รชฏ กล่าว
ดร.รชฏกล่าวอีกว่า กลุ่มธุรกิจที่ยังขับเคลื่อน และถือเป็นแกนหลักของเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย คือธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหาร การเกษตร และสุขภาพ ซึ่งยังเป็นภาคหนึ่งของธุรกิจที่มีความเข้มแข็ง และเติบโตได้ ภายใต้สถานการณ์ที่แปรปรวนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ จึงหลีกไม่พ้นที่ธุรกิจต่างๆ จะต้องเร่งปรับตัว สร้างความยืดหยุ่นด้วยการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาปรับใช้กับองค์กร เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และเสาะแสวงหากลุ่มลูกค้ารายใหม่ หรือกล่าวได้ว่าหัวใจหลักของการทำธุรกิจสมัยใหม่ต้องเน้นในเรื่องของการสร้างนวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยีมาผสานในการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
“การดำเนินโครงการในปี 2566 มีทั้งการให้ความรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งทันสมัยยิ่งกว่าปีที่ผ่านมา เน้นความกระชับ และตรงประเด็น โดยในกิจกรรมแรกคือ Step & Boost Up Program จะเป็นการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ โดยการปูพื้นฐานในการทำธุรกิจสมัยใหม่ เช่น การสร้างสรรค์ธุรกิจด้วยนวัตกรรม การตลาดดิจิทัล และการทำธุรกิจออนไลน์ รวมทั้ง การให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในรูปแบบเกื้อหนุนต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ในส่วนของภาคปฏิบัตินั้นจะเป็นลักษณะกิจกรรมเวิร์กช้อป ให้มีการปฏิบัติเขียนแผนภาพธุรกิจ และการสร้างสื่อการตลาดแบบคลิปวีดีโอ ซึ่งจะเป็นแนวโน้มการทำธุรกิจที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมกับยังมีกิจกรรมพบที่ปรึกษา โดยในกิจกรรมดังกล่าวนี้ จะมีลักษณะการจัดให้ผู้ประกอบการพบปะกับที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงโมเดลธุรกิจให้ศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น” ดร.รชฏ กล่าว
ดร.รชฏกล่าวอีกว่า ในส่วนของกิจกรรมต่อเนื่องจากกิจกรรมดังกล่าว จะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ไปเข้าร่วมกิจกรรมให้คำปรึกษาเชิงลึก โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญไปให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ถึงสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การตลาด ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ การผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน การทำธุรกิจแบบ BCG Model และการสนับสนุนเงินทุนทางธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจนั้นๆ มีศักยภาพ และเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยทีมที่ปรึกษาจะได้ติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ในโครงการนี้ จะได้จัดกิจกรรมคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีผลการดำเนินงานภายใต้โครงการนี้ที่ดีที่สุด เพื่อเป็นสุดยอด GSB Change Maker ประจำปี 2566 รับทุนในการต่อยอดธุรกิจให้ยั่งยืนได้