‘สมพงษ์’ แนะ ผู้ปกครอง-น.ร.-น.ศ.กาพรรคที่เน้นนโยบาย-ผลักดันการศึกษา จริงจัง

‘สมพงษ์’ แนะ ผู้ปกครอง-น.ร.-น.ศ.กาพรรคที่เน้นนโยบาย-ผลักดันการศึกษา จริงจัง

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า การเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม สำคัญมาก คนในแวดวงการศึกษา พ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียน นิสิต นักศึกษา ควรพิจารณาให้ดี เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเปลี่ยนแปลงของประเทศ ถ้ายังปล่อยให้การศึกษาเดินหน้าอยู่กับระบบเดิมๆ ประเทศไทยจะติดหล่ม ไปไม่รอด และทำให้อนาคตลูกหลานเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย อยากให้ผู้ปกครองพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าลงคะแนนให้พรรคไหน โดยขอให้พิจารณาว่าแต่ละพรรคเสนอนโยบายการศึกษามีคุณภาพแตกต่างกันหรือไม่ และต้องอ่านนโยบายให้ดี จากที่ติดตามนโยบายการศึกษา และติดตามการดีเบตที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา แบ่งนโยบายการศึกษาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.นโยบายเฉพาะกิจ คือไม่เห็นความสำคัญกับการศึกษา เพราะจะเห็นพรรคการเมืองเสนอนโยบายการศึกษา 1-2 ข้อเท่านั้น เช่น ออกนโยบายอยากเรียนได้เรียน สร้างเด็กไทย 3 ภาษา เป็นต้น

ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวอีกว่า 2.การเสนอนโยบายที่อิงกับระบบราชการ คือเอาระบบราชการเป็นฐานในการออกนโยบาย เช่น เรียนฟรี 15 ปี มีสวัสดิการครูนักเรียน ซึ่งมีพรรคการเมืองจำนวนมากที่ออกนโยบายอิงกับระบบราชการ และจะเห็นว่านโยบายที่ออกมาไม่ทำให้เกิดความท้าทาย และเกิดการเปลี่ยนแปลงเลย 3.นำนโยบายที่เคยทำกลับมาทำใหม่ เช่น การแจกแท็ปเล็ตให้นักเรียนและครู 1 ทุน 1อำเภอ เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการสานต่อสิ่งดีๆ ในอดีต และมาทำให้ในปัจจุบัน และ 4.นโยบายที่มุ่งมั่นทางการศึกษา กระหายที่จะพัฒนา และมีจุดยืนชัดเจน ซึ่งมีเพียงไม่กี่พรรคเท่านั้นที่ให้ความสำคับกับนโยบายการศึกษาอย่างยิ่งยวด และให้ความสำคัญเทียบเท่ากับนโยบายด้านอื่นๆ

“ผู้ปกครองควรจะพิจารณานโยบายการศึกษาของแต่ละพรรค ควรพิจารณาความสำคัญที่แต่ละพรรคนำมาใช้หาเสียง เช่น เรียนฟรี 15 ปี ต้องอ่านรายละเอียดให้ดีว่าเรียนฟรีจริงหรือไม่ และมีนโยบายไหนบ้างที่สนับสนุนให้เกิดการเรียนฟรีได้จริง ที่แต่ละพรรคพูดถึงการปฏิรูปการศึกษา ต้องดูความเป็นไปได้ด้วยว่ามีนโยบายที่เน้นเปลี่ยนแปลงกฎหมายการศึกษา หลักสูตร ปฏิรูประบบหลักสูตรหรือไม่ นอกจากนี้ จะเห็นว่าทุกพรรคหาเสียงกับครู ออกนโยบายที่เกี่ยวกับสวัสดิการครูมาจำนวนมาก ต้องดูนโยบายว่าพรรคไหนมีนโยบายที่ช่วยลดภาระงานครูอย่างแท้จริง จึงอยากให้นำเรื่องเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจลงคะแนนเสียง อย่ากาเพราะเชื่อ หรือถูกชักจูง หรือได้รับเงิน และอย่ามองเรื่องการศึกษาเป็นประเด็นรอง ผมมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญต่อครอบครัว ต่ออนาคตลูกหลาน ต่อตลาดแรงงานในอนาคต ดังนั้น ต้องพิจารณานโยบาย ความเป็นไปได้ในการผลักดันอย่างรอบครอบ” ศ.ดร.สมพงษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image