รายงานการศึกษา : กรมศาสนา..พาทัวร์ ‘อยุธยา’ ตามรอย..ลิซ่า BLACKPINK ตามลิสต์..มหัศจรรย์วัดไทย

รายงานการศึกษา : กรมศาสนา..พาทัวร์ ‘อยุธยา’ ตามรอย..ลิซ่า BLACKPINK ตามลิสต์..มหัศจรรย์วัดไทย

หลังกระแส “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล สมาชิกวง BLACKPINK นุ่งผ้าไทย เที่ยววัด กราบไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดหน้าพระเมรุ วัดมหาธาตุ และ วัดแม่นางปลื้ม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวแห่ตามรอยลิซ่า สวมใส่ผ้าไทย เข้าวัดกันอย่างคับคั่ง

ไม่เว้นแม้แต่ กรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม ที่งานนี้ขอโหนกระแส “ลิซ่า” ชวนคนไทยท่องเที่ยวในมิติศาสนา ไหว้พระ 9 วัดเมืองกรุงเก่า ในลิสต์โครงการ “มหัศจรรย์วัดไทย” ซึ่งได้รวบรวมวัดที่เป็นศูนย์กลางของคนในชุมชน รวมถึง มีความพร้อมด้านสถาปัตยกรรม พระพุทธรูปประจำวัด สภาพภูมิทัศน์ เอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่น เอกลักษณ์ท้องถิ่น ได้รับความนิยมจากศาสนิกชนทั้งไทย และต่างประเทศ กว่า 250 แห่งทั่วประเทศ มาให้นักท่องเที่ยวไปเข้าชม …

 

สำหรับเส้นทางไหว้พระเมืองกรุงเก่านั้น นอกจาก 3 วัดดังตามรอย ลิซ่า BLACKPINK คือ วัดหน้าพระเมรุ วัดมหาธาตุ และวัดแม่นางปลื้ม ซึ่งถือเป็นวัดที่ห้ามพลาดหากไปเยือนอยุธยาแล้ว ทาง ศน.ยังเพิ่มลิสต์วัดที่ต้องไปอีก 9 แห่ง คือ 1.วัดตะโก กราบสักการะหลวงพ่อสมหวัง พระประธานในอุโบสถ พร้อมกราบสักการะสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของ “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูงแห่งอยุธยา 2.วัดท่าการ้อง ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า “พระพุทธรัตนมงคล” หรือที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อยิ้ม” 3.วัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งมีพระอุโบสถคล้ายโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ภายในประดิษฐานพระประธาน “พระพุทธนฤมลธรรมโมภาส”

ADVERTISMENT

4.วัดพนัญเชิง “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือที่คนนิยมเรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า หลวงพ่อโต เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปปูนปั้นที่งดงามคู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาตั้งแต่ครั้งอดีต ทั้งยังเป็นที่นับถือของชาวจีน ซึ่งนิยมเรียกท่านว่า ซำปอกง หมายถึง แก้วสามประการ หรือก็คือพระรัตนตรัยนั่นเอง ภายในพระอุโบสถวัดพนัญเชิงยังมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และพระพุทธรูปนาค 5.วัดกษัตราธิราช ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธกษัตราธิราช ที่ผู้คนมักไปขอพรเรื่องเมตตามหานิยม ตลอดจนเสริมบารมีในหน้าที่การงาน รวมถึง พระพุทธชนะมาร ที่นิยมไปห่มผ้าขอพรให้ได้รับความสุข เสริมสิริมงคล ค้าขายรุ่งเรือง ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง

6.วัดสะตือ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ.2400 โดย หลวงพ่อโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ภายในวัดโดดเด่นด้วย “พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่” หรือหลวงพ่อโต ประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าวัด มีชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวว่ายเวียนเข้ามากราบไหว้สักการะอย่างไม่ขาดสาย ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระประธานปางมารวิชัย รวมถึง มีพระปรางค์นาคปรกสมัยทวาราวดี ซึ่งพระปรางค์นาคปรกองค์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรให้เป็นโบราณวัตถุ นอกจากนี้ ยังมี รอยพระพุทธบาทจำลอง อายุราว 100 ปี ให้ผู้คนไปกราบไหว้ด้วยเช่นกัน

 

7.วิหารพระมงคลบพิตร ประดิษฐาน “พระมงคลบพิตร” มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตร และสูงถึง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นพลังความเชื่อทางศาสนา ที่ไม่อาจจะแยกออกได้จากอุดมคติในทางสังคม และการเมือง ทั้งเป็นประจักษ์พยานถึงความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับศาสตร์แห่งโลหะ และความสามารถในการหล่อโลหะ โดยเฉพาะสำริด ซึ่งเป็นโลหะที่สำคัญที่สุดชนิดหนึ่งในสมัยอยุธยา

8.วัดหน้าต่างนอก กราบสักการะ “หลวงพ่อจง พุทธสโร” เกจิแห่งยุคสงครามอินโดชื่อดัง ซึ่งเป็นที่โจษจันกันว่าทหารที่พกเสื้อยันต์ ตระกุดของหลวงพ่อ เมื่อถูกยิงล้มลงแต่กลับลุกขึ้นมายืนได้อีก จึงเป็นที่ขนานนามของฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นทหารผี ทั้งนี้ ภายในวัดยังมีพระธาตุเจดีย์ศรีบางไทร ซึ่งมีดรรชนี (นิ้วชี้) ของหลวงพ่อจง บรรจุในสถูปเจดีย์เพื่อให้ประชาชนสักการบูชา นอกจากนี้ ประชาชนยังนิยมมาสักการะ ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวน เพื่อขอพรอีกด้วย

และ 9.วัดบึงลัฏฐิวัน ชมความสวยงามของ “พระมหาเจดีย์ศรีอยุธยาสัมมาสัมโพธิญาณ” สีขาวบริสุทธิ์ที่ตั้งอยู่กลางวัด ภายในมีพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธปรินิพพาน และภาพจำลองของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเทวดา และพระพุทธรูปที่งดงาม

จะสวยงามแค่ไหน คงต้องไปให้เห็นด้วยตา นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรม ศน.ไม่พลาดพาคณะลงพื้นที่ท่องเที่ยวมิติเชิงศาสนา แม้ไม่ครบ 9 วัดดังตามลิสต์โครงการ “มหัศจรรย์วัดไทย” ที่วางไว้ แต่ได้ตามรอย “ลิซ่า” แน่นอน..

เริ่มจาก วัดหน้าพระเมรุราชิการาม เชื่อว่าเป็นวัดเดียวในพระนครศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าข้าศึกเผาทำลายเสียหาย ความงามของวัดหน้าพระเมรุฯ ที่ปรากฎเบื้องหน้า เป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่ยังสมบูรณ์ พระอุโบสถฐานแอ่นแบบสำเภา ยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตร เป็นแบบอยุธยาแท้ๆ มีเสาอยู่ภายใน ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง

วัดหน้าพระเมรุราชิการาม

สันนิษฐานวัดนี้ เดิมเป็นสถานที่สร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้น อีกความสำคัญประดิษฐาน “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” ขึ้นชื่อเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ปรากฏในปัจจุบัน ใครได้ยลต้องตะลึงกับความงดงาม และสมบูรณ์ ปิดทองอร่ามตา ส่วนที่วิหารเล็ก เราไปกราบหลวงพ่อศิลาสมัยทวารวดีอายุมากกว่า 1,300 ปี

    พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลก

ตามมาด้วย วัดแม่นางปลื้ม ซึ่งมีตำนานผูกโยงกับ ตำนานพระนเรศวรมหาราช เล่าขานกันว่า วันหนึ่งพระนเรศวรทรงพายเรือโดยลำพัง เกิดฝนตก พระองค์หาสถานที่หลบฝน พบเรือนหลังหนึ่ง ซึ่งมีหญิงชรานั่งอยู่ และขอขึ้นไปพักบนเรือน พร้อมขอเหล้ายายกินแก้หนาว นางปลื้มบอกว่า อย่าเสียงดัง พระเจ้าแผ่นดินไม่ชอบให้กินเหล้าวันพระ พระนเรศวรประทับใจ เชิญแม่นางปลื้มเข้าวัง ยกย่องให้เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี ทรงสถาปนาวัดชื่อวัดแม่นางปลื้ม เป็นตัวแทนความกตัญญูต่อแผ่นดิน เราเดินเที่ยวชมวัด เข้าไปไหว้หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปขนาดใหญ่อายุ 646 ปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

เศียรพระพุทธรูปเก่าที่มีรากไม้ปกคลุม

จากนั้นเที่ยวชม วัดมหาธาตุ โบราณสถานเก่าแก่ที่มีสภาพสมบูรณ์ ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น วัดแห่งนี้เป็นวัดหลวงกลางใจเมือง ถือเป็นสะดือของกรุงศรีอยุธยาก็ไม่ผิด ความโดดเด่นนอกจากร่องรอยความรุ่งเรือง และสถาปัตยกรรมวัด เจดีย์ พระปรางค์โบราณแล้ว มีแลนด์มาร์คที่ทุกคนไม่พลาด เป็น เศียรพระพุทธรูปเก่าที่มีรากไม้ปกคลุม ดูแล้วน่าอัศจรรย์ ที่นี่มีพระปรางค์องค์ใหญ่ งดงามด้วยศิลปะแบบอยุธยาตอนต้นผสมผสานศิลปะขอม

ต่อมาสมัย พระเจ้าปราสาททอง ได้บูรณะพระปรางค์ให้สูงยิ่งขึ้น ใจกลางพระปรางค์พบหีบศิลาข้างในบรรจุผอบเงิน ผอบทอง และผอบแก้วสีม่วงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ปัจจุบันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ที่วัดนี้มีบรรยากาศตามรอยคนดัง สาวไทยสวมผ้าซิ่นสวยงามถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ตามมาด้วย วัดตะโก กราบสักการะหลวงพ่อสมหวัง พระประธานในอุโบสถ เพื่อให้ชีวิตสมหวังทุกประการ พร้อมกราบสักการะสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของ “หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก” พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมสูงแห่งอยุธยา

ปิดท้ายที่ วัดสะตือ ต้องห้ามพลาด สร้างในสมัย ร.5 ภายในวัดโดดเด่นด้วย “พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่” หรือ หลวงพ่อโต ประดิษฐานอยู่หน้าวัด มีชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบไหว้สักการะไม่ขาดสาย รวมถึง มีพระปรางค์นาคปรกสมัยทวาราวดี มีรอยพระพุทธบาทจำลองอายุ 100 ปี

นอกจากวัดที่ ศน.แนะนำมาข้างต้นแล้ว อยุธยายังมีอีกหลายวัดที่น่าไป อาทิ วัดหน้าต่างนอก กราบสักการะ “หลวงพ่อจง พุทธสโร” เกจิแห่งยุคสงครามอินโดชื่อดัง ซึ่งเป็นที่โจษจันกันว่าทหารที่พกเสื้อยันต์ ตระกุดของหลวงพ่อ เมื่อถูกยิงล้มลงแต่กลับลุกขึ้นมายืนได้อีก เป็นที่ขนานนามของฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นทหารผี ภายในวัดยังมีพระธาตุเจดีย์ศรีบางไทร ซึ่งมีดรรชนี (นิ้วชี้) ของหลวงพ่อจงบรรจุในสถูปเจดีย์เพื่อให้บูชา

แม้ช่วงนี้อากาศจะร้อน แต่เชื่อว่า ถ้าได้ไปไหว้พระ เที่ยวชมโบราณสถานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งความประทับใจกลับบ้านแน่นอน..