นายกสภามรภ.ดัง ยื่นศาลปค. ฟ้อง ‘มน.-สภามน.-สำนักปลัดอว.’ ปมตำแหน่งศ.พิเศษ

นายกสภามรภ.ดัง ยื่นศาลปค. ฟ้อง ‘มน.-สภามน.-สำนักปลัดอว.’ ปมตำแหน่งศ.พิเศษ

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม รศ.ดร.สมบัติ นพรัก นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร อดีตประธานที่ประชุมคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) โพสต์เฟซบุ๊ก “สมบัติ นพรัก” เกี่ยวกับกรณีปัญหาศาสตราจารย์พิเศษ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

“ศาสตราจารย์พิเศษทิพย์” 
โดยปกติ ผมจะไม่โพสต์เรื่องส่วนตัวลง fb ครับ

แต่วันนี้ขอละเมิดความปกติ ขอโพสต์เรื่องส่วนตัวสักหนึ่งเรื่องครับ
เมื่อวานผมไปยื่นเรื่องฟ้องที่ศาลปกครองพิษณุโลก มีผู้ถูกฟ้องคดี 3 ราย ดังนี้ครับ
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.)
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 สภามหาวิทยาลัยนเรศวร
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.)

ADVERTISMENT

สาเหตุที่ผมฟ้องทั้งที่ไม่อยากฟ้อง เพราะสำนึกในบุญคุณของมหาวิทยาลัยนเรศวรท่วมหัวครับ แต่ผมจำเป็นต้องฟ้อง ด้วยสาเหตุ และรายละเอียดประกอบการฟ้อง ดังนี้ครับ

1. ผมได้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 โดยได้แนบแบบคำขอรับการพิจารณากำหนดตำแหน่ง ทางวิชาการ เพื่อขอดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ สาขาวิชาการศึกษา อนุสาขาวิชาการบริหารการศึกษา (ก.พ.อ.03) ลงวันที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561

ADVERTISMENT

2.ผมติดตามข่าวการพิจารณาการขอกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาโดยลำดับ เพื่ออยากทราบว่าผลงานของผมผ่านการพิจารณาหรือไม่? ได้รับทราบเป็นการภายในว่าผลงานวิชาการผ่านเรียบร้อยและสภามหาวิทยาลัยนเรศวรอนุมัติแล้ว

3.ผมรอฟังข่าวดีเรื่องการเสนอโปรดเกล้าฯให้ผมดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร แต่ก็ได้รับทราบเป็นการภายในอีกว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไม่เสนอขอโปรดเกล้าฯให้ เนื่องจากผมขาดคุณสมบัติตามประกาศมหาวิทยาลัยนเรศวรว่า ผมจะต้องเป็น “รองศาสตราจารย์พิเศษ”

4.ด้วยความสงสัยว่ามีประกาศมหาวิทยาลัยนเรศวรเช่นว่าด้วยหรือ ผมจึงค้นข้อมูลพบว่า มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขอตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ ดังนี้

1)ข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ พ.ศ.2548 ประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2548 ซึ่งระบุ ดังนี้
ข้อ 5. ผู้สมควรดํารงตําแหน่งศาสตราจารย์พิเศษจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
5.1 มีคุณวุฒิทางการศึกษา ไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาโท
5.2 มีความรู้ความสามารถ ความชํานาญเป็นพิเศษ และมีผลงานวิชาการในระดับศาสตราจารย์ ในสาขาที่มีการสอนในมหาวิทยาลัย ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ฯลฯ
5.3 เป็นผู้ทําคุณประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัยนเรศวร

2)ประกาศมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงานเพื่อแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ พ.ศ. 2550 ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2550 ความดังนี้
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 และ มาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. 2533 ประกอบกับข้อ 6 วรรคสองแห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยการแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ พ.ศ. 2548 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2548 จึงให้ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 4 หลักเกณฑ์การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ
4.1 คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์พิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี

#ผมพบว่าประกาศฉบับนี้เองที่ไปกำหนดรุณสมบัติผู้ขอตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าต้องเป็นรองศาสตราจารย์พิเศษ โดยที่ประกาศฉบบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับ แต่ไปกำหนดรายละเอียดเรื่องคุณสมบัติเกินกว่าที่ข้อยังคับกำหนด ซึ่งโดยศักดิ์ของกฎหมายแล้วจะกระทำมิได้

3)ด้วยความสงสัยผมจึงค้นข้อมูลต่อ พบว่ามีประกาศอีกหนึ่งฉบับ มีรายละเอียด ดังนี้ครับ

ประกาศมหาวิทยาลัยนเรศวร เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลงานของผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ พ.ศ. 2548 ประกาศลงวันที่ 4 ตุลาคม 2548 (ออกประกาศปีเดียวกับข้อบังคับ คือ พ.ศ.2548 ) กำหนดเพียงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลงานฯเท่านั้น มิได้กำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่นประกาศ พ.ศ. 2550 ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2550แต่ประการใด(ประกาศ พ.ศ.2550 ออกหลังประกาศฉบับแรก พ.ศ.2548 โดยมิได้มีการยกเลิกประกาศฉบับแรก ผมจึงไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมจึงต้องออกประกาศฉบับนี้

4.ด้วยความสงสัย ผมจึงค้นข้อมูลต่อว่ามีผู้ขอกำหนดตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ โดยใช้ข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วย การแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ พ.ศ.2548ประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2548 หรือไม่พบว่ามี 1 ราย คือศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ซึ่งขอตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษหลังจากกครบวาระการดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อปี พ.ศ.2552 ซึ่งต้องมีคุณสมบัติตามประกาศฉบับใดบับหนึ่งที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติ ผมพบว่า ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ได้รับโปรกเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งตามที่ประกาศฉบับแรก (พ.ศ.2548) กำหนด เนื่องจากศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ดำรงตำแหน่ง รองศาสตราจารย์ ก่อนขอตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มิได้ดำรงตำแหน่ง รองศาสตราจารย์พิเศษ ตามที่ประกาศฉบับที่ 2 ไปกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติม ว่า ต้องเป็นรองศาสตราจารย์พิเศษ

5.ด้วยเหตุผลทางกฎหมายที่สภามหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินการไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยไปใช้ประกาศฉบับที่ 2 (พ.ศ.2550) ซึ่งไม่มีที่มาที่ไป และสภามหาวิทยาลัยนเรศวรแจ้งกับผมโดย หนังสือที่ อว 0603/09201 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร (ภายหลังจากที่ผมทำหนังสือที่ อว 0603.05/- ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขอข้อมูลข่าวสารของราชการเกี่ยวกับการดำเนินการ ขอตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ โดยอ้างถึง พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง) ความว่า

“บัดนี้ ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร ได้อนุมัติตามความเห็นชอบของคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยนเรศวร กรณีมีความเห็นสอดคล้องกับผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายที่มีความเห็นว่าท่านจะต้องมีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์พิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงจะถือว่ามีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด”

จากข้อความตามหนังสือแจ้งมติของสภามหาวิทยาลัยนเรศวร แสดงว่า สภามหาวิทยาลัยนเรศวรได้อนุมัติการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการที่ผมขอกำหนดตำแหน่งและแต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยนเรศวร แล้ว แต่ผมต้องมีคุณสมบัติตามประกาศฉบับที่สอง (พ.ศ.2550) ที่เป็นปัญหาทางกฎหมาย

#รวมทั้งการที่ผมฟ้องสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ก็เนื่องจากใช้อำนาจสองมาตรฐาน กรณีเสนอโปรดเกล้าฯศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ซึ่งมีคุณสมบัติ รองศาสตราจารย์เหมือนผม แต่ไม่เสนอโปรดเกล้าฯผม

เขียนสรุปย่อๆ มาพอเข้าใจครับ ฉบับที่ยื่นศาลปกครองมีความยาว 11 หน้า รวมเอกสารแนบ 55 หน้าครับ

ผมรอไปอีกประมาณ 1 เดือนว่าศาลปกคคองจะรับฟ้อง ตามที่ผมยื่นฟ้องหรือไม่? แต่ก็สบายใจที่ได้ทำแล้วครับ ผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ครับ

ถ้าศาลปกครองไม่รับฟ้อง ผมก็คงเป็น “ศาสตราจารย์พิเศษทิพย์” ครับ

หมายเหตุ ยื่นขอ วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ถึง วันที่ 16 สิงหาคม 2566 อีก 4 วัน จะครบ 5 ปี ครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image