ที่มา | คอลัมน์ "เรียนไทยได้จีน" |
---|---|
ผู้เขียน | ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มฟล. |
เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (298) 成语故事 (二九八)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 事半功倍 shì bàn ɡōnɡ bèi (ฉี้อ ป้าน กง เป้ย) โดย คำว่า 事 shì (ฉื้อ) กิจธุระ 半 bàn (ป้าน) แปลว่า ทำ ดำเนินการ 功 ɡōnɡ (กง) ผลงาน ผลลัพธ์ 倍 bèi (เป้ย) เท่า เท่าตัว เมื่อร่วมกันแล้วจะหมายถึง ทำกิจธุระไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียว แต่ผลลัพธ์กลับทวีคูณ ความพยายามเล็กๆ แต่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
ราชวงศ์โจวตะวันออก 东周/東周 Dōnɡzhōu (ตงโจว) ราชสำนักอ่อนแอ บ้านเมืองวุ่นวาย ศึกสงครามเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า เหล่าเจ้านายผู้ครองหัวเมืองต่างๆ แม้ปากจะพร่ำบอกว่าจงรักภักดีต่อราชสำนักโจว แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขาเหล่านั้นกลับตั้งตัวเป็นใหญ่ พากันแบ่งแยกดินแดนปกครองเอง จนก่อเกิดเป็นยุครุ่งเรืองแห่งการแบ่งแยกประเทศ จีนเรียกยุคนี้ว่าชุนชิว 春秋 Chūnqiū ซึ่งมีรัฐใหญ่น้อยมากมายนับร้อยแยกตัวปกครอง เกิดศึกแย่งชิงอำนาจและดินแดนตลอดเกือบสามร้อยปี
ต่อมาในยุคจ้านกั๋ว 战国/戰國 Zhànɡuó (ยุครัฐศึก) เกิดการควบรวมดินแดนจนเหลือเจ็ดรัฐ และสู้รบกันต่อไปอีกสองร้อยกว่าปี สุดท้ายจิ๋นซีฮ่องเต้จึงเป็นผู้รวบรวมดินแดนเหล่านั้นให้กลับมาเป็นแผ่นดินเดียวกันได้สำเร็จ ดังนั้น ในยุค 春秋战国 จึงเป็นยุคแตกแยก และศึกสงคราม ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จึงก่อเกิดเหล่านักคิดนักปราชญ์ทั้งหลายมากมายเพื่อจะหาหนทางดับทุกข์หรือแก้ไขความวุ่นวายทางการเมือง หนึ่งในนั้นคือท่านขงจื่อ 孔子 Kǒnɡzǐ (ขงจื๊อ) ในยุคชุนชิว ท่านนำเสนอเหริน 仁 rén (หลักเมตตาธรรม) ให้แก่เหล่าเจ้าเมือง เพื่อใช้ในการปกครอง แต่ไม่วายเหล่าเจ้าเมืองทั้งหลายไม่ยอมรับ จนขงจื่อต้องเร่รอนไปยังเมืองต่างๆ มากมายนับสิบๆ ปี
(ที่มาภาพ : https://baijiahao.baidu.com/s?id=1600052786605620966&wfr=spider&for=pc)
ต่อมาลูกศิษย์ขงจื่อยุคจ้านกั๋ว นามว่าเมิ่งจื่อ 孟子 Mènɡzǐ (เมิ่งจื๊อ) ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในคำสอนของขงจื่อยิ่งนัก ท่านนำหลักแนวคิดของขงจื่อไปตีความเพื่อให้เข้าใจง่ายแล้วเผยแผ่ใหม่ จนมีลูกศิษย์มากมายในสังกัดของเมิ่งจื่อ
มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งระหว่างสนทนาถึงสภาพบ้านเมือง ท่านก็บอกว่า ความจริงบ้านเมืองวุ่นวายอย่างเช่นทุกวันนี้ ก็เพราะเหล่าเจ้าเมืองเห็นแก่ตัว ไม่มีใครคิดการใหญ่เพื่อประชาชนทั้งแผ่นดินเลย รัฐใหญ่อย่างรัฐฉี 齐国/齊國 Qí ɡuó (ฉีกั๋ว) ถ้าเจ้านายฉียอมคิดยอมทำเพื่อประชาชน โดยนำหลักเมตตาธรรมมาปกครอง ภารกิจรวมแผ่นดินจะง่ายดายยิ่งนัก เพราะจะมีประชาชนที่เบื่อหน่ายศึกสงครามเข้าร่วมด้วยมากมาย
แล้วเมิ่งจื่อก็ยกตัวอย่างอดีตปฐมกษัตริย์แห่งราชโจวที่ตั้งตนด้วยดินแดนเพียงรัศมีร้อยลี้ ทั้งยังเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งของราชวงศ์ซาง 商朝 Shānɡ cháo (ซางเฉา) แต่ด้วยการปกครองด้วยหลักเมตตาธรรมนี้ ทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งในรัฐโจวเอง และรัฐต่างๆ ล้วนมาเข้าด้วย สุดท้ายก็ทำศึกโค่นล้มราชวงศ์ซางที่มีเจ้านายผู้โหดเหี้ยมอำมหิตได้สำเร็จ แล้วจึงสรุปว่า รัฐฉีเป็นรัฐใหญ่ อุดมสมบูรณ์ มีประชากรมากมาย ถ้าเจ้าเมืองใช้หลักเมตตาธรรมปกครอง ประชาชนย่อมรัก และสามัคคี ภารกิจการรวมแผ่นดินก็เพียงออกแรงแค่ครึ่งเดียวก็จะได้ผลมากมายแล้ว
ต่อมาผู้คนจึงนำคำพูด 事半功倍 shì bàn ɡōnɡ bèi (ฉี้อ ป้าน กง เป้ย) นี้มาใช้เพื่อเปรียบเปรยว่า ออกแรงเล็กน้อยก็ได้ผลมากมายนับเท่าตัว หรือลงทุนน้อยนิดก็ได้กำไรมากมาย
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:出力小而收效大。
成語比喻:出力小而收效大。
Chénɡyǔ bǐyù:Chūlì xiǎo ér shōuxiào dà.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ชูลี่ เสี่ยว เอ๋อร์ โฌวเซี่ยว ต้า
สุภาษิตเปรียบว่า: ความพยายามเล็กๆ แต่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
办事前必须要全面思考、仔细计划,这样还没动手去做就已事半功倍。
辦事前必須要全面思考、仔細計劃,這樣還沒動手去做就已事半功倍。
Bànshì qián bìxū yào quánmiàn sīkǎo, zǐxì jìhuà, zhèyànɡ hái méi dònɡshǒu qù zuò jiù yǐ shìbànɡōnɡbèi.
ป้านฉื้อ เฉียน ปี้ซวี เหย้า เฉวียนเมี่ยน ซือข่าว, จื่อซี่ จี้ฮว่า, เจ้อย่าง ไห เหมย โต้งโฉ่ว ชวี่ จั้ว จิ้ว อี่ ฉื้อป้านกงเป้ย
ก่อนที่จะทำการใดๆ ต้องคิดให้รอบด้านและวางแผนอย่างรอบคอบ เช่นนี้แม้จะยังไม่ทันได้ลงมือทำจริงก็ได้ผลไปกว่าครึ่งแล้ว