ที่มา | คอลัมน์ "เรียนไทยได้จีน" |
---|---|
ผู้เขียน | ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มฟล. |
เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (301) 成语故事 (三〇一)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 秦晋之好/秦晉之好 qín jìn zhī hǎo (ฉิน จิ้น จือ ห่าว) โดย คำว่า 秦 qín (ฉิน) แปลว่า รัฐจิ๋น 晋/晉j ìn (จิ้น) แปลว่า รัฐจิ้น之 zhī (จือ) เป็นคำคุณลักษณะที่มีความหมายประมาณว่า ของ ทำหน้าที่เหมือนกับ 的 de (เตอะ) 好hǎo (ห่าว) กลยุทธ์ อุบาย เมื่อร่วมกันแล้วจะหมายถึง ความสัมพันธ์ที่ดีของรัฐฉินกับรัฐจิ้น การแต่งงานดองญาติกัน ความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
ราชวงศ์โจว 周朝 Zhōu cháo โจว เฉา เป็นราชวงศ์ลำดับที่สามในประวัติศาสตร์จีน ราชวงศ์โจวก่อกำเนิดจากรัฐเล็กๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจของราชวงศ์ฌาง 商朝 Shāng cháo ฌาง เฉา แต่ด้วยความมุ่งมั่น และคุณธรรมสูงส่งของผู้ครองรัฐโจว จึงทำให้บารมี และอำนาจแผ่ขยายไปทั่ว จนท้ายที่สุดก็สามารถโค่นล้มราชวงศ์ฌาง เจ้านายของตนลงได้ เมื่อราชวงศ์โจวสถาปนาขึ้นแล้ว จักรพรรดิโจวจึงปูนบำเหน็จให้กับบรรดาญาติมิตรที่ร่วมด้วยช่วยกันจนก่อตั้งราชวงศ์ได้ ดังนั้น ราชวงศ์โจวจึงเป็นยุคแรกที่นำเอาระบบศักดินามาใช้ บรรดาญาติๆ และมิตรสหายที่ได้รับปูนบำเหน็จไปครองเมืองต่างๆ ล้วนกลายเป็นเจ้าผู้ครองนครรัฐต่างๆ ไป
เมื่อกาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ความผูกพันฉันญาติ ฉันมิตรทั้งหลายก็จืดจางลง เมื่ออำนาจแต่ละรัฐมากล้น ก็ถือโอกาสแข็งข้อต่อศูนย์กลางอำนาจไปโดยปริยาย ดังนั้น ในช่วงราชวงศ์โจวตะวันออก รัฐต่างๆ จึงแบ่งแยกดินแดนแล้วปกครอง ก่อเกิดรัฐใหญ่น้อยมากมาย บางรัฐก็เป็นมิตรกัน บางรัฐก็ผูกใจแค้น รบพุ่งกันมิหยุดหย่อน เพื่อจัดการกับปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ รัฐฉินกับรัฐจิ้น จึงตกลงเป็นมิตรต่อกัน โดยทั้งสองฝ่ายต่างส่งเจ้าหญิง หรือเจ้าชายไปแต่งงานดองญาติกันไว้
โดยมีเรื่องเล่าว่า รัฐฉินในยุคของฉินมู่กง 秦穆公 Qín Mùɡōnɡ กับรัฐจิ้นในยุคของจิ้นเซี่ยนกง 晋献公/晉獻公 Jìn Xiànɡōnɡ ต่างปรารถนาที่จะผูกมิตรกันไว้ จิ้นเซี่ยนกงจึงได้ส่งเจ้าหญิงไปอภิเษกสมรสกับฉินมู่กง ทำให้ทั้งสองรัฐในยุคนี้สัมพันธ์ดียิ่ง ครั้นต่อมาในภายหลัง ภายในรัฐจิ้นเกิดความวุ่นวายในศึกชิงบัลลังก์ของบรรดาองค์ชายต่างๆ สุดท้ายองค์ชายน้อย ราชบุตรของนางสนมเอกก็ได้อำนาจไป เจ้าชายทั้งหลายที่เหลือบ้างก็โดนลอบ สังหาร บ้างก็ต้องหลบหนีออกไปอยู่ยังต่างแดน
(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search/detail?ct)
ต่อมาฉินมู่กงได้ให้ความช่วยเหลือเจ้าชายอี๋ อู๋ 夷吾 Yí Wú ให้ขึ้นสู่อำนาจ ซึ่งก็คือจิ้นฮุ่ยกง 晋惠公/晉惠公 Jìn Huìɡōnɡ ซึ่งมีข้อตกลงคือ รัฐจิ้นจะมอบพื้นที่ห้าหัวเมืองที่ติดกับรัฐฉินให้กับฉินมู่กง แต่ทว่าเมื่อจิ้นฮุ่ยกงได้อำนาจแล้ว กลับไม่ทำตามสัญญา ทำให้ฉินมู่กงโกรธยิ่งนัก แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ปีถัดมา รัฐจิ้นเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฉินมู่กงไม่เพียงจะล้างแค้น แต่กลับส่งเสบียงจำนวนมากมายไปช่วยเหลือรัฐจิ้น เพื่อแสดงออกถึงความมีน้ำใจ และความเป็นเครือญาติกัน ครั้นภายหลังต่อมา รัฐฉินก็เกิดภัยพิบัติบ้าง รัฐฉินขอความช่วยเหลือไปทางรัฐจิ้น รัฐจิ้นภายใต้การนำของฉินฮุ่ยกง ไม่เพียงไม่ให้ความช่วยเหลือ กลับส่งกองทัพมารุกรานชายแดนของฉินอีกต่างหาก
ดังนั้น หลังจากรัฐฉินผ่านพ้นวิกฤตแล้ว จึงกรีฑาทัพไปจัดการโค่นล้มอำนาจของจิ้นฮุ่ยกง แล้วแต่งตั้งเจ้านายคนใหม่ขึ้นมา แต่เจ้านายคนใหม่นี้มีจิตใจอิจฉาริษยาแรงมาก ไม่อยู่ในคุณธรรม มีนิสัยโหดเหี้ยมอำมหิต มักส่งคนไปลอบสังหารองค์ชายรัฐจิ้นที่ลี้ภัยอยู่ในรัฐต่างๆ ในตอนนี้นี่เอง เจ้าชายฉงเอ่อร์ 重耳 Chònɡ’ěr ผู้ลี้ภัยอยู่ในรัฐฉู่ ได้เดินทางมาถึงรัฐฉิน ฉินมู่กงได้ยินชื่อเสียงของเจ้าชายฉงเอ่อร์มานานแล้วว่า เป็นคนฉลาด เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จึงตกลงยกลูกสาวของตนให้กับเจ้าชายฉงเอ่อร์ และให้ความช่วยเหลือบุตรเขยคนนี้ จนสุดท้ายได้ขึ้นครองอำนาจแห่งรัฐจิ้น ในนามว่าจิ้นเหวินกง 晋文公/晉文公 Jìn Wénɡōnɡ ความผูกพัน และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐฉินกับรัฐจิ้นจึงกลับมาชื่นมื่นอีกครั้งหนึ่ง
ต่อมาผู้คนจึงเอาความสัมพันธ์อันดียิ่งระหว่างรัฐฉินกับรัฐจิ้นนี้มาพูดเปรียบเปรยว่า ความสัมพันธ์อันดียิ่งของทั้งสองฝ่าย โดยผ่านการแต่งงานดองญาติกัน โดยอาจมีความหมายแฝงซ้อนเร้นลึกๆ ว่า การยอมละทิ้งความแค้น หรือผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ส่วนร่วม ดังเช่นยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น ที่ชนเผ่าซฺยงหนูมักยกทัพมาปล้นชิงทรัพย์สินรัฐฮั่นบริเวณชายแดนภาคเหนือ ทำให้ทั้งสองชาติมีความแค้นที่ฝังลึกต่อกัน แต่จักรพรรดิแห่งฮั่นกลับยอมยกองค์หญิงให้ไปอภิเษกกับผู้นำชนเผ่าซฺยงหนู เพื่อความผาสุขของประชาชนนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ของความหมายตามสุภาษิตนี้
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:两方之间的联姻或婚配关系。
成語比喻:兩方之間的聯姻或婚配關系。
Chénɡyǔ bǐyù:Liǎnɡ fānɡ zhī jiān de liányīn huò hūnpèi ɡuānxì
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: เหลี่ยง ฟาง จือ เจียน เตอะ เหลียนอิน ฮั่ว ฮุนเพ่ย กวานซี่
สุภาษิตเปรียบว่า: การแต่งงาน หรือความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานระหว่างกันของทั้งสองฝ่าย
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
匈奴与汉朝是敌对的关系,但在汉元帝与匈奴首领的努力下,最后他们结为了秦晋之好。
匈奴與漢朝是敵對的關系,但在漢元帝與匈奴首領的努力下,最後他們結為了秦晉之好。
Xiōnɡnú yǔ hàn cháo shì díduì de ɡuānxì, dàn zài hàn yuándì yǔ xiōnɡnú shǒulǐnɡ de nǔlì xià, zuìhòu tāmen jié wéile qín jìn zhī hǎo.
ซฺยงหนู ยหวี่ ฮั่น เฉา ฉื้อ ตี๋ตุ้ย เตอะ กวานซี่, ต้าน จ้าย ฮั่น หยวนตี้ หยวี่ ซฺยงหนู โฉวหลิ่ง เตอะ หนู่ลี่ เซียะ, จุ้ยโห้ว ทาเหมิน เจี๋ย เหวย เลอะ ฉินจิ้นจือห่าว
ชนเผ่าซฺยงหนู และราชวงศ์ฮั่นมีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรต่อกัน แต่ด้วยความพยายามของจักรพรรดิฮั่นหยวนตี้ และผู้นำ ซฺยงหนู ในที่สุดพวกเขาก็แต่งงานดองญาติกลายมาเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันได้