ท่ามกลางวิกฤติ และกระแสที่ตกต่ำของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิสิตสาขาวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรกลุ่มหนึ่งยังคงเชื่อมั่นว่า การเรียนรู้ในศาสตร์ด้านงานข่าวจากสิ่งพิมพ์จะไม่ทำให้อนาคตการทำงานด้านนี้มืดมน และมั่นใจว่าเลือกเดินมาถูกทางแล้ว ตราบเท่าที่งานข่าวยังมีความสำคัญต่อสังคม สังคมก็ยังต้องการผู้สื่อข่าวที่มีคุณภาพ และวิธีคิดแบบหนังสือพิมพ์อย่างแน่นอน
หลังจากที่เปิดภาคการศึกษาปลายปีการศึกษา 2559 ไปเพียง 2 สัปดาห์ กลุ่มนิสิตวิชาเอกวารสารศาสตร์ ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจเศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเปิดกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ “ร่มเสลา”
ในบรรยากาศที่มีแต่ข่าวไม่ดีในแวดวงสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทยอยปิดตัวกันไปจำนวนมาก ทั้งหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร หรือแม้แต่สื่อวิทยุ และโทรทัศน์ดิจิตอลเองก็ได้รับผลกระทบทางธุรกิจไปด้วย อันเนื่องมาจาก การเฟื่องฟูของสื่อออนไลน์ที่ส่งผลต่อสื่อต่างๆ อย่างรุนแรง

นางสาวเบญจวรรณ นาคนัตถ์ นิสิตวิชาเอกวารสารศาสตร์ปี 3 ในฐานะบรรณาธิการคนใหม่ของหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ “ร่มเสลา” พูดถึงวิกฤติสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีต่อวิชาเอกของเธอว่า ในแง่ของการเรียนการสอนนั้นไม่ได้รับผลกระทบ ตนและเพื่อนๆ ยังคงรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ในศาสตร์ด้านนี้เหมือนวันแรกที่เลือกวิชาเอกเมื่อสองปีก่อน อีกทั้งน้องๆ รุ่นใหม่ก็เลือกเข้ามาเรียนในสาขานี้ไม่น้อยไปกว่าปีที่ผ่านๆ มา ขณะที่เรื่องอนาคตกับอาชีพการงานด้านสื่อมวลชน ก็ไม่ได้วิตกกังวล และยังคงติดตามข่าวคราววิกฤติของสื่อสิ่งพิมพ์มาโดยตลอด
“อยากเรียนวารสารฯ ตั้งแต่ ม.ต้น แล้วค่ะ คิดว่าหนังสือพิมพ์มีเสน่ห์ในตัวเอง ในส่วนของงาน ก็ไม่กลัวตกงาน เรียนเจอาร์ (Journalism) ไม่ได้มีแค่หนังสือพิมพ์ เรายังเพิ่มขีดความสามารถทำข่าวในสื่ออื่นๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หรือสื่อข่าวออนไลน์ เพราะพื้นฐานของเจอาร์คือการอยู่กับข้อเท็จจริง การคิด และการเขียนอยู่แล้ว อีกอย่างถ้าเราไม่เลือกงาน เราก็จะไม่ตกงานค่ะ” บรรณาธิการคนใหม่กล่าว

ขณะที่ นางสาวปภาวรินท์ หมื่นอาษา ผู้ช่วยบรรณาธิการเพื่อนรุ่นเดียวกัน ก็ให้ความคิดเห็นในแนวทางเดียวกัน และย้ำว่าโดยส่วนตัวเป็นคนชอบคิด และชอบเขียนอยู่แล้ว ซึ่งการเรียนวารสารศาสตร์ช่วยพัฒนาและยกระดับเรื่องงานเขียนของเธอได้ดีขึ้น
ต่อคำถามว่าหากย้อนเวลากลับไปเลือกเรียนวิชาเอกใหม่อีกครั้ง จะเปลี่ยนไปเลือกเรียนด้านสื่อใหม่ ภาพยนตร์ วิทยุ-โทรทัศน์หรือไม่ ทั้งคู่ยืนยันว่าจะยังคงเลือกเรียนวารสารศาสตร์เหมือนเดิม และย้ำว่า
“ข่าวยังมีความสำคัญต่อสังคมเสมอทุกยุคทุกสมัย งานข่าวไม่มีทางหายไปจากสังคมแน่นอนค่ะ ดังนั้นนักข่าว โดยเฉพาะนักข่าวที่มีคุณภาพจะยังมีที่ยืนในธุรกิจนี้ไม่ว่าจะนำเสนอผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ-โทรทัศน์ หรือสื่อออนไลน์ก็ตาม”
ขณะที่ที่ปรึกษาหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติร่มเสลา อาจารย์ทิฆัมพร เอี่ยมเรไร ย้ำว่าแม้ความสดและความรวดเร็วจะมีความสำคัญต่องานข่าวในปัจจุบัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมยังต้องการข่าวเชิงลึก และข่าวที่มีความน่าเชื่อถือจากสถาบันสื่อไว้ตรวจสอบอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งก็มีแต่วิธีคิดและวิธีทำงานแบบ “สื่อข่าว” ในเชิงวารศาสตร์เท่านั้นที่จะยังยืนหยัดอยู่ในจุดนี้ต่อไป ซึ่งในช่วงเวลานี้อาจจะเป็นช่วงวิกฤติที่ต้องฟันฝ่าเหมือนกับยุคอื่นๆ ที่เคยผ่านมา
หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ “ร่มเสลา” เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาสัมมนาวารสารศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่นับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนักข่าวท้องถิ่นสู่เส้นทางอาชีพสื่อมวลชนมาหลายรุ่น ซึ่งในเทอมปลายจะเป็นช่วงเวลาที่นิสิตวิชาเอกวารสารศาสตร์ปีสามจะได้เรียนรู้ และฝึกฝนการทำงานครบวงจรของสื่อสิ่งพิมพ์ ตั้งแต่การทำข่าว และการจัดการหนังสือพิมพ์ในส่วนอื่นๆ จนพิมพ์ออกมาเป็นเล่มสู่ชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร และหน่วยงานรอบนอกในจังหวัดพิษณุโลก รวมถึงส่งผ่านในนามคณะบริหารธุรกิจเศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร โดยภาควิชานิเทศศาสตร์ ไปทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
ในภาคการศึกษา 2/2559 นี้กองบรรณาธิการ โดยบรรณาธิการคนใหม่ย้ำว่าจะเน้นเรื่องเนื้อหาข่าวสารในเชิงลึก และกว้างด้านความรู้มากขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยนเรศวร และจังหวัดพิษณุโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรือการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะพิมพ์เสร็จพร้อมแจกจ่ายให้กับชุมชน มหาวิทยาลัยต่างๆ และผู้สนใจประมาณปลายเดือนเมษายน 2560