ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เดินหน้าแก้ปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษาอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเข้ามาช่วยออกแบบการแก้ปัญหาความรุนแรงร่วมกัน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ จะต้องเอาจริงเอาจัง โดยเน้นทั้งการป้องกันและปราบปราม เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ทั้งนี้แม้ว่า กลุ่มเด็กที่ใช้ความรุนแรงจะมีอายุน้อย แต่ก็ไม่สามารถปล่อยไว้ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นอาชญากรรมสังคม ทั้งที่มีแค่ส่วนน้อย แต่หากปล่อยให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นเกิดเป็นลัทธิเลียนแบบ
ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการป้องกันนั้นสพฐ. ได้ออกระเบียบและแจ้งให้โรงเรียนทั่วประเทศรับทราบเรียบร้อยแล้ว รวมถึงกำชับให้ผู้บริหาร และครู ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด แต่ปัญหาที่พบอีกอย่างคือ ระยะหลัง เหตุการณ์ความรุนแรงมักจะไปเกิดขึ้นภายนอกสถานศึกษา ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องเข้าไปกำกับดูแล ดังนั้นในส่วนของโรงเรียน ก็จะต้องมีหน้าที่ ประสานความร่วมมือให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะรายชื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง ที่จะต้องส่งข้อมูลไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ซึ่งตรงนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็เห็นตรงกัน ว่าจะต้องช่วยกันบูรณาการ เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นภายนอกโรงเรียนด้วย
“ส่วนกิจกรรมเสริมทักษะ เพื่อให้เด็กมีวินัย รู้จัดคิดวิเคราะห์ เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนนั้น อยู่ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งทุกโรงเรียนต้องดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ผู้บำเพ็ญประโยชน์หรือจิตอาสา ถูกบรรจุไว้ในชั่วโมงการเรียนการสอน มีงบประมาณดำเนินการ หากเด็กไม่เข้าเรียนก็จะไม่สามารถเลื่อนชั้นได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทุกโรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอน แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่า เด็กอยากให้เลิกสอน ซึ่งก็คงต้องไปดูรายละเอียด โดยอาจจะต้องมีการทบทวน หาสาเหตุว่า ทำไมเด็กจึงอยากให้ยกเลิกกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต่าง ๆ เช่น กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ซึ่งพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ. ก็รับทราบปัญหา และขอให้สพฐ.ไปดู เพื่อปรับรูปแบบใหม่ ดังนั้นสพฐ.จึงต้องกลับมาทบทวนและวิเคราะห์การจัดการเรียนการสอน กิจกรรมเหล่านี้ ว่าเพราะอะไรเด็กจึงไม่อยากเรียน โดยผมได้มอบให้ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการกพฐ. ซึ่งดูแลเรื่องหลักสูตร เข้าไปดูแลออกแบบว่า จะจัดกิจกรรมอย่างไรให้เด็กรู้สึกว่า เรียนแล้วเกิดประโยชน์ มีคุณค่า” ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว