ที่มา | คอลัมน์ "เรียนไทยได้จีน" |
---|---|
ผู้เขียน | อ.ซ่อซิง เมธาธารณ์กุล ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มฟล. |
เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (312) 成语故事 (三一二)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 安步当车/安步當車 ān bù dànɡ chē (อาน ปู้ ตั้ง เชอ) โดย คำว่า 安 ān (อาน) แปลว่า นิ่ง ช้าๆ ไม่เร่งรีบ สบายๆ 步 bù (ปู้) แปลว่า ก้าวเดิน การเดิน 当/當 dànɡ (ตั้ง) แปลว่า เป็นเสมือนว่า ทำให้เป็นเหมือนว่า 车/車 chē (เชอ) แปลว่า รถ (รถเทียมเกวียนสมัยโบราณ) เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง เดินสบายๆ เหมือนการนั่งรถ การเดินทางที่ใช้รถ การเดินทางที่ได้นั่งสบายอยู่บนรถ เป็นคำที่ใช้เปรียบเทียบว่า สบายๆ ไม่รีบร้อน มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
ในยุครัฐศึก 战国/戰國 Zhànɡuó (จ้านกั๋ว) เนื่องด้วยเป็นยุคศึกสงครามชิงความเป็นจ้าวแห่งแผ่นดิน จึงทำให้แต่ละนครรัฐสะสมกำลังผู้คน เพื่อสร้างกองกำลังในการขยายดินแดน และบารมี ยุคนี้ผู้มีความรู้ความสามารถสูง จึงเป็นที่ต้องการมากเป็นพิเศษ ดังนั้น ใครก็ตามที่พอมีชื่อเสียงบ้าง ไม่ว่าจะด้านความสามารถรบทัพจับศึก หรือด้านความคิดวางแผนวางนโยบาย หรือแม้แต่เหล่าบรรดานักคิดทางปรัชญาทั้งหลาย จะกลายเป็นบุคคลที่เหล่าผู้ครองนครรัฐทั้งหลายต้องการตัวทั้งสิ้น
ที่รัฐฉี 齐国/齊國 Qíɡuó (ฉีกั๋ว) ในยุคการปกครองของฉีเซวียนหวาง 齐宣王/齊宣王 Qí Xuānwánɡ นักปราชญ์คนหนึ่งมีนามว่า เหยียนชู่ 颜斶 Yán Chù ปฏิบัติตนสมถะ ปลีกวิเวก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคม จึงเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนมากมาย เมื่อฉีเซวียนหวางทราบเรื่อง ก็อยากเชิญมารับราชการ ครั้งหนึ่งเมื่อเขาส่งคนไปเชิญตัวเหยียนชู่มาได้ ในโถงท้องพระโรง ฉีเซวียนหวางเมื่อเห็นเหยียนชู่เดินเข้ามา แล้วหยุดอยู่แต่ไกล จึงรับสั่งให้เหยียนชู่เดินมาหาใกล้ๆ เหยียนชู่ยืนนิ่ง พร้อมกล่าวว่า ท่านเจ้าเมืองโปรดลงมาหาข้าพเจ้าด้วย
(ที่มาภาพ https://ishijue.com/community/photo-details)
เหล่าข้าราช บริพารได้ยิน ต่างตกใจ และตำหนิเหยียนชู่ว่า ท่านเป็นแค่นักบวชต่ำต้อยคนหนึ่ง ไฉนบังอาจสั่งเจ้านายลงมาหาเจ้า เจ้าต่างหากควรเดินขึ้นไป เหยียนชู่ตอบว่าที่ข้าขอให้ท่านเจ้าเมืองเดินลงมาหา ก็เพื่อต้องการให้ไพร่ฟ้าได้รู้ว่า เจ้านายเป็นคนดี ไม่ถือยศถืออย่าง เป็นการส่งเสริมบารมีให้เจ้านายมิใช่หรือ
ฉีเซวียนหวางได้ยิน ก็ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก จึงถามว่า ตำแหน่งเจ้าผู้ครองรัฐสำคัญ หรือตำแหน่งนักบวชเช่นท่านสำคัญ เหยียนชู่ก็ตอบว่า แน่นอนว่า ตำแหน่งนักบวชสำคัญกว่าตำแหน่งเจ้าเมือง ฉีเซวียนหวางไม่พอใจยิ่งนัก จึงกล่าวต่อไปว่า ที่เจ้าว่ามามีหลักฐานประวัติศาสตร์ใดเป็นเครื่องยืนยัน เจ้าอย่าได้พูดมั่วไป เหยี่ยนชู่จึงพูดว่ามีแน่นอน
ครั้งหนึ่งระหว่างที่กองทัพรัฐฉิน 秦国/秦國 Qín ɡuó (ฉินกั๋ว) ยกทัพมารบกับรัฐฉีนั้น เจ้าผู้ครองนครรัฐฉีสั่งให้กองทัพตั้งทัพห่างจากสุสานท่านนักปราชญ์หลิวเซียะหุ้ย 柳下惠/柳下惠 Liǔxià Huì หากใครบังอาจเข้าไปตัดไม้ตัดฟืนใกล้รัศมีสุสานห้าสิบก้าว ประหารชีวิตสถานเดียว ในขณะที่การรบกันรัฐฉีนั้น ก็มีประกาศว่า หากใครสามารถสังหารผู้ครองนครรัฐฉีได้ ปูนบำเหน็จทั้งเงินทองลาภยศมากมาย นี้ก็บ่งบอกว่าแม้เพียงสุสานคนที่ตายไปแล้ว ยังได้รับการเคารพมากมาย ส่วนตำแหน่งผู้ครองรัฐเช่นท่าน กลับไม่มีความหมายใดๆ เลย
เมื่อฉีเซวียนหวางฟังจบ ก็รีบลงจากบัลลังก์มาแสดงความเคารพต่อเหยียนชู่ และกล่าวขอโทษที่ได้ล่วงเกิน พร้อมกันนั้นก็ได้ชักชวนให้เหยียนชู่อยู่ในวังเพื่อเป็นอาจารย์ของตน ลาภยศสรรเสริญใดๆ ที่ต้องการตนพร้อมจะมอบให้ เหยียนชู่ตอบกลับแบบไม่รีบไม่ร้อนว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้ละทิ้งแล้วซึ่งทุกสิ่ง ไม่ยึดติดในสิ่งใดๆ ดังนั้น ท่านจงปล่อยให้ข้าพเจ้าไปตามทางของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีความอดอยาก และความเหน็บหนาวเป็นเพื่อนกายตลอดไปเถิด ว่าแล้วก็เดินออกจากวังแห่งนั้นไปด้วยอาการไม่รีบไม่ร้อน
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:轻松缓慢地行走。
成語比喻:輕鬆緩慢地行走。
Chénɡyǔ bǐyù: Qīnɡsōnɡ huǎnmàn de xínɡzǒu.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ชิงซง ห่วนม่าน เตอะ สิงโจ่ว
สุภาษิตเปรียบว่า เดินอย่างช้าช้าสบายๆ
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
大学离家并不远,现在还早,我们就安步当车吧。
大學離家並不遠,現在還早,我們就安步當車吧。
Dàxué lí jiā bìnɡ bù yuǎn, xiànzài hái zǎo, wǒmen jiù ānbùdànɡchē bɑ.
ต้าเสว หลี เจีย ปิ้ง ปู้ หย่วน, เซี่ยนไจ้ ไห จ่าว, หวั่วเหมิน จิ้ว อานปู้ตั้งเชอ ปะ
มหาวิทยาลัยไม่ไกลจากบ้าน ตอนนี้ก็ยังเช้าอยู่ พวกเราค่อยๆ เดินไปก็แล้วกัน