พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนพนักงานเจ้าหน้าที่องค์การค้า ของสกสค. ประจำปี 2567 จำนวน 232 ราย ในกรอบอัตราร้อยละ6 ของเงินเดือน เป็นเงิน 350,363.40 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ การเลื่อนเงินเดือนดังกล่าว เป็นเพียงกรอบสำหรับการพิจารณา ซึ่งไม่ใช่ว่า ทุกคนจะได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนเท่ากันหมด โดยจะต้องมีการประเมินผลการทำงาน ส่วนงบประมาณที่จะใช้ มาจากเงินรายได้ขององค์การค้าฯ ซึ่งแม้จะยังมีภาระหนี้สินกับหลายหน่วยงานอยู่ แต่เมื่อองค์การค้าฯ บริหารและมีผลประกอบการที่ดี ก็ต้องมีการเพิ่มค่าตอบแทน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้พนักงาน นอกจากนี้นายพีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการสกสค.ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องต่างๆ และรายงานแผนการดำเนินการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้า กรณีศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา อดีตผู้บริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยมิชอบ รวมเป็นเงินกว่า 2,500 ล้านบาท ทำให้ สกสค.ได้รับความเสียหาย จึงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตประธานและกรรมการกองทุนฯและพวกทั้ง 16 ราย รายละ 20 ปี และให้ลงโทษจำคุก กรรมการบริษัท บิลเลี่ยนฯ 2 ราย รายละ 12 ปี 16 เดือน ปรับเป็นเงินจำนวน 240,000 บาท และพิพากษาให้อดีตประธานและกรรมการกองทุนฯ รวม 16 ราย และบริษัท บิลเลี่ยนฯ และกรรมการบริษัทฯ รวม 3 ราย ร่วมกันนำเงิน จำนวน 2,500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ส่งคืนศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษา คือวันที่ 21 พฤษภาคม เพื่อศาลจะนำส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.ต่อไป โดยรัฐมนตรีว่าการศธ. ได้สั่งการให้ เลขาธิการสกสค. และให้ยื่นบังคับคดีเพื่อเรียกเงินคืนโดยเร็วที่สุดนั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการรายงานเรื่องดังกล่าว
“ที่ประชุมยังไม่มีการรายงานความคืบหน้า กรณีการยื่นบังคับคดี แต่นายพีระพันธ์ ได้รายงานผลการตรวจสอบ การดำเนินการในคดีอื่นๆ เช่น กรณีอดีตผู้บริหารกองทุนฯ นำเงิน ไปซื้อหุ้น บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด ในโครงการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน บ้านป่าตอง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ในราคาหุ้นละ 25 บาท รวมมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท เป็นต้น โดยทุกเรื่องขอให้เร่งดำเนินการเพื่อให้มีความโปร่งใสมากที่สุด ส่วนความคืบหน้าการจัดส่งหนังสือเรียนขององค์การค้าฯ นั้น เท่าที่ฟังข้อมูลมีการจัดส่งหนังสือเรียนครบเรียบร้อยแล้ว ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา”พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
