มึนยอด น.ร.เอกชนลดเกือบ 5 หมื่น เหตุเด็กเกิดน้อย ทำอนุบาล 3 ขวบหายทุกโรง ‘ศุภเสฏฐ์’ วอนรัฐเร่งเพิ่มเงินเดือนครูเอกชนเท่า ขรก.
ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาเอกชน ประเภทสามัญศึกษา ปีการศึกษา 2567 มี 234,000 กว่าคน ลดลงจากปีที่ผ่านมากว่า 46,000 คน คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวนรับนักเรียนปีการศึกษา 2566 ขณะที่พบว่า มีผู้สนใจเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติเพิ่มมากขึ้นกว่า 10% โดยผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กในประเทศเพื่อนบ้าน และเด็กในประเทศที่ผู้ปกครองมีศักยภาพ ที่อยากให้บุตรหลานได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ แสดงให้เห็นว่าโรงเรียนนานาชาติในไทย มีศักยภาพเพียงพอที่จะดึงดูดผู้เรียนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเรียนได้
“ภาพรวมแม้ว่าจำนวนนักเรียนลดลง ก็ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนเอกชนไม่มีคุณภาพ เพราะเมื่อไปดูข้อมูลเป็นรายชั้น พบว่าเด็กที่ลดลงส่วนใหญ่อยู่ในชั้นอนุบาล 1 หรืออนุบาล 3 ขวบ ซึ่งลดลงเกือบทุกโรงเรียน เพราะอัตราการเกิดลดลง ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกคนต่างเฝ้าระวัง ทำให้อัตราการมีบุตรลดลง อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ทำให้โรงเรียนเอกชนกว่าร้อยละ80 ของโรงเรียนที่มีอยู่ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ และเก็บค่าใช้จ่ายบางรายการเพิ่มขึ้น พยายามจัดการเรียนการสอน ที่เน้นหาศักยภาพผู้เรียน ปรับระบบจากครูผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กหาความรู้ หรือโค้ชชิ่ง ตรงตามนโยบาย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แต่มีบางโรงเรียนที่กังวล ว่าจะไม่สามารถบริหารโรงเรียนต่อไปได้ ส่วนตัวได้ให้กำลังใจ หรือบางรายทนไม่ไหวก็ขอเลิกกิจการไปประมาณ 30-40 โรง แต่ก็มีโรงเรียนเปิดใหม่เพิ่มขึ้นบ้าง เชื่อว่าถ้าทุกคนปรับตัวจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับความต้องการของผู้ปกครอง จะไปต่อได้” ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว
ดร.ศุภเสฏฐ์กล่าวต่อว่า ขณะที่สถานการณ์การจัดการเรียนการสอนโรงเรียนทั่วไป พบว่าภายหลังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศผลการสอบครูผู้ช่วย มีครูโรงเรียนเอกชนจำนวนมากลาออกเพื่อรอบรรจุแต่งตั้งในโรงเรียนสังกัด สพฐ.กรณีนี้เป็นปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งโรงเรียนเอกชนเองพยายามขอให้ สพฐ.จัดสอบครูผู้ช่วยในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อให้โรงเรียนเอกชนมีเวลาหาครูใหม่ และเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไข ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เป็นปัญหาขาดแคลนครูทั้งรัฐ และเอกชน
“อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนพยายามสนองนโยบายรัฐบาล และนโยบายรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ในทุกเรื่อง แต่ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ คือการปรับเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนให้เท่าเงินเดือนขั้นต่ำตามวุฒิปริญญาตรีของเงินเดือนข้าราชการ จากเดิม 15,000 บาท เป็น 16,500 บาท ซึ่งเริ่มปรับเพิ่มไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และอยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้น ขอความกรุณารัฐบาล เร่งพิจารณาช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชนให้ได้รับเงินเดือนเทียบเท่ากับเงินเดือนข้าราชการ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครูโรงเรียนเอกชน” ดร.ศุภเสฏฐ์ กล่าว
