ที่มา | คอลัมน์ เรียนไทยได้จีน |
---|---|
ผู้เขียน | ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มฟล. |
เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (324) 成语故事 (三二四)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 高屋建瓴 gāo wū jiàn líng (เกา อู เจี้ยน หลิง) โดย คำว่า高gāo (เกา) แปลว่า สูง จุดสูง 屋wū (วู) แปลว่า หลังคาบ้าน 建jiàn (เจี้ยน) เฉพาะในบทความนี้หมายถึงเท เทน้ำ 瓴líng เฉพาะในบทความนี้หมายถึงขวดหรือแจกันใส่น้ำ เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง เทน้ำในขวดจากจั่วหลังคาบ้าน แล้วน้ำในขวดมันก็จะไหลลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว อุปมาว่า น้ำไหลจากที่สูงย่อมขวางกั้นไม่ได้ หรือถ้าเป็นเรื่องของอำนาจก็จะหมายถึงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้เปรียบ จะสั่งการหรือทำการใด ๆ ยากที่จะมีใครต้านทานได้ หรืออยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สามารถมองทุกอย่างได้อย่างเข้าใจทะลุปรุโปร่ง มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
ราชวงศ์ฮั่นตอนต้น ในช่วงที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นราชวงศ์ขึ้นมาใหม่ ๆ บ้านเมืองยังไม่ถึงขั้นสงบเรียบร้อยทั่วทั้งแผ่นดิน ปัญหาการจัดบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ภายในศูนย์กลางอำนาจและเหล่าหัวเมืองน้อยใหญ่ทั้งหลาย ยังคงมีปัญหา เกิดความไม่ไว้วางใจกัน เกิดการระแวงสงสัยกันตลอดเวลา ในช่วงนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเหตุการณ์หนึ่ง นั่นก็คือการกำจัดหรือจัดการอำนาจเจ้าผู้ครองเมืองฉู่ 楚王Chǔ wáng (ฉู่ หวัง) จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้
หลังจาก หลิวปัง刘邦 /劉邦Liú Bāng ปราบบรรดาเจ้าเมืองต่างๆได้ทั้งหมดแล้ว ก็สถาปนาราชวงศ์ฮั่น汉朝/漢朝 Hàn cháo (ฮั่นเฉา) และตัวเองขึ้นเป็นปฐมจักรพรรดิแห่งฮั่น หลังจากนั้นก็มีการปูนบำเหน็จให้กับขุนนางขุนศึกทั้งหลายที่ได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา หนึ่งในนั้นก็คือขุนศึกหานซิ่น 韩信/韓信Hán Xìn ได้ไปครองเมืองฉู่ เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ก็มีข่าวมารายงานว่า หานซิ่นคิดการใหญ่จะก่อการกบฏขึ้น เมื่อหลิวปังได้รับรายงาน ก็โกรธยิ่งนัก จึงได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางขุนศึกทั้งหลาย ในที่ประชุมนั้นเหล่าขุนนางขุนศึกทั้งหลายต่างเสนอให้ยกกำลังไปปราบปรามให้เร็วที่สุด แต่มีขุนนางคนหนึ่งนามว่าเฉินผิง陈平/陳平 Chén Píng คัดค้านแผนการนี้ พร้อมให้เหตุผลว่า บรรดาขุนศึกทั้งหลายนั้น ไม่มีใครเลยที่จะไปต่อกรกับขุนศึกหานซิ่นได้ ดังนั้นการยกทัพไปปราบมีแต่จะพ่ายแพ้เป็นแน่ มิสู้หาวิธีที่ดีกว่าหรือ ว่าแล้วเฉินผิงก็เสนอแผนการใหม่ โดยให้หลิวปังประกาศเสด็จประพาสไปทางตะวันออกและทางใต้ เพื่อตรวจงานราชการ และสั่งให้บรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ บริเวณเหล่านั้นเข้าเฝ้ารายงาน เมื่อหานซิ่นมาก็หาทางจับกุมตัว โดยไม่ต้องก่อศึกทำให้เสียเลือดเนื้อผู้คนอีกเลย
ด้วยแผนนี้ สุดท้ายหลิวปังก็สามารถจับกุมตัวหานซิ่นได้ตามแผน และคิดจะหาเหตุผลประหารชีวิตเสีย แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้ เพราะหานซิ่นยังไม่ได้ก่อการกบฏ จะประหารโดยเชื่อแค่คำเล่าลือไม่ได้ ครั้นจะปล่อยตัวก็กลัวปล่อยเสือเข้าป่า ในระหว่างนี้ก็มีขุนนางอีกคนหนึ่งนามว่าเถียนเขิ่น 田肯Tián Kěn ได้เข้าเฝ้าถวายพระพรแสดงความยินดีในความสำเร็จ หลิวปังสงสัยจึงถามเหตุผล เถียนเขิ่นจึงตอบว่า ความยินดีที่ว่ามีสองเรื่อง หนึ่งคือพระองค์ท่านสามารถจับกุมตัวหานซิ่นได้สำเร็จ สองคือท่านสามารถสยบความวุ่นวายในบ้านเมืองได้สำเร็จ โดยสามารถยึดครองอดีตดินแดนของแคว้นฉินทั้งหมด จนตั้งดินแดนแห่งนี้ให้เป็นเมืองหลวงได้อีกครั้ง ท่านก็ทราบดีว่าเหตุผลที่เลือกดินแดนนี้เป็นเมืองหลวง
(ที่มาภาพ https://image.baidu.com/search/detail?ct=503316480&z)
เพราะทำเลที่ตั้งนั้นดีมาก มีหุบเขาเหวลึก ภูเขาสูงชันล้อมรอบ ยากต่อการรุกราน หากศัตรูยกกำลังมานับแสนนับล้าน ท่านเพียงใช้ทหารไม่กี่หมื่นก็รับมือได้สบายๆ และท่านยังสามารถยึดครองดินแดนอดีตแคว้นฉีและแคว้นฉู่ได้สำเร็จ เป็นที่ทราบกันดีว่าสองดินแดนนี้คืออู่ข้าวอู่น้ำของแผ่นดิน มีผู้คนอยู่อาศัยมากมาย ได้สองดินแดนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่องเสบียงอาหาร และผู้คนที่จะขาดแคลนอีกต่อไป ต่อไปภายหน้า หากมีใครบังอาจมารุกรานอาณาจักรของท่าน ก็คงยากที่จะก่อการได้โดยง่าย เพราะท่านเปรียบเสมือนผู้ยืนอยู่บนจั่วหลังคาบ้านแล้วเทน้ำลงมา น้ำเหล่านั้นจะไหลลงจากจั่วหลังคาอย่างรวดเร็วยากที่ใครจะไปต้านทานได้ 高屋建瓴gāo wū jiàn líng (เกา อู เจี้ยน หลิง) เมื่อพูดถึงตอนนี้ หลิวปังก็เข้าใจความหมายของเถียนเขิ่นทันที ความจริงที่เขาได้แผ่นดินที่เถียนเขิ่นกล่าวมานี้ ล้วนแต่เป็นผลงานของขุนพลหานซิ่นทั้งสิ้น การที่จะสังหารเขาเสียโดยที่ไม่มีหลักฐานว่าเขาคิดจะก่อกบฏจริงมันจึงดูไม่เหมาะสม แต่ครั้นจะปล่อยตัวก็ทำไม่ได้ มันจะเสียหน้า สุดท้ายหลิวปังจึงประกาศอภัยโทษทั่วหล้า เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จแห่งการรวมแผ่นดิน ขุนพลหานซิ่นจึงรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:对事物把握全面,了解透彻。
成語比喻:對事物把握全面,了解透徹。
Chénɡyǔ bǐyù:Duì shìwù bǎwò quánmiàn, liǎojiě tòuchè.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ตุ้ย ฉื้ออู้ ป่าวั่ว เฉวียนเมี่ยน, เหลียวเจี่ย โท่วเช่อ.
สุภาษิตเปรียบว่า: มีความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ อย่างทะลุปรุโปร่ง เข้าใจอย่างถี่ถ้วน
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
好的老师要高屋建瓴的看待知识,才能帮助学生更好的理解和掌握新知识。
好的老師要高屋建瓴的看待知識,才能幫助學生更好的理解和掌握新知識。
Hǎo de lǎoshī yào ɡāowūjiànlínɡ de kàndài zhīshì, cáinénɡ bānɡzhù xuéshēnɡ ɡènɡ hǎo de lǐjiě hé zhǎnɡwò xīn zhīshì.
ห่าว เตอะ เหล่าฌือ เหย้า เกาอูจี้ยนหลิง เตอะ คั่นไต้ จือฉื้อ, ไฉเหนิง ปางจู้ เสวเฌิง เกิ้ง ห่าว เตอะ หลีเจี่ย เหอ จ่างวั่ว ซิน จือฉื้อ
ครูที่ดีต้องให้ความสำคัญกับความรู้อย่างทะลุปรุโปร่งเพื่อจะได้ช่วยนักเรียนเกิดความเข้าใจและเกิดความรู้ใหม่ ๆ มากขึ้น