สพฐ.เร่งช่วยเหลือร.ร.ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หลายแห่ง ซึ่งจากรายงานล่าสุดพบว่ามีสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ทั้งหมด 4 โรงเรียน นักเรียนได้รับผลกระทบ 285 ราย บ้านพักนักเรียนได้รับความเสียหาย 87 ราย และบ้านพักครู ได้รับความเสียหาย 19 ราย จึงได้มีข้อสั่งการให้ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. พร้อมด้วย เขตพื้นที่ฯดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการดูแลช่วยเหลืออย่างรอบด้าน

เลขาธิการกพฐ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สพฐ. ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นให้ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวัง และประสานงานกับจังหวัดทำตามแผนป้องกันและแผนเผชิญเหตุที่ได้เตรียมไว้ วิเคราะห์ความเสี่ยงในการเดินทางของนักเรียนโดยเน้นความปลอดภัยในชีวิตเป็นสำคัญ หากจำเป็นต้องสั่งปิดสถานศึกษาให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา พร้อมทั้งประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นโดยมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนในระยะยาว ให้ทำการสำรวจความเสียหายของอาคารสถานที่ โรงเรียนในสังกัด แล้วเสนอคำของบประมาณมายัง สพฐ. และสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพิจารณาในการช่วยเหลือ พร้อมประสานหน่วยงานในพื้นที่ ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ ในการซ่อมแซมความเสียหาย และประสานศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center) ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อช่วยเหลือซ่อมแซม และให้สพท. รายงานผลการดำเนินงานมายัง สพฐ. ให้ทราบเป็นระยะ

“พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และกำชับให้ สพฐ. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทางเขตพื้นที่ฯ ได้ให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มความสามารถ หากโรงเรียนใดต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมสามารถแจ้งมายังเขตพื้นที่ฯ หรือศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. เพื่อได้ดำเนินการดูแลช่วยเหลือต่อไป” ว่าที่ร้อยตรีธนุกล่าว