เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวเชิญชวนทุกภาคส่วนจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช 2567 เน้นแนวคิด “ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทย ซึ่งแก่นแท้ของประเพณี เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ การรู้คุณค่าของน้ำที่ใช้ในการดำรงชีวิต ประเพณีลอยกระทง จึงถือว่าเป็นประเพณีที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ปรากฏในรูปแบบของพิธีกรรม การประดิษฐ์กระทง การประดับประทีปโคมไฟในยามค่ำคืน การแสดงมหรสพ และการละเล่นรื่นเริงต่าง ๆ
“โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมประเพณีลอยกระทง ด้วยแนวทางปฏิบัติในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช 2567 ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ดังนี้ 1.ขอให้ทุกภาคส่วนสร้างสรรค์กิจกรรมที่พัฒนาต่อยอดจากคุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทงดั้งเดิม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ2.จัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทง โดยเน้นเรื่องคุณค่าและสาระของประเพณี 3.ร่วมกันรักษาความสะอาดลำน้ำและใช้กระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.สนับสนุนให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงในทุกระดับ5.สร้างความตระหนักรู้ต่อประชาชนเกี่ยวกับประเพณี มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวต่อว่า 6.สื่อสารให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทงให้คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน 7.สนับสนุนให้ประชาชนใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยเพื่อแพร่ภาพกิจกรรมลอยกระทงสร้างการรับรู้ให้ชาวต่างชาติ 8.รณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจรและมาตรการความปลอดภัย 9.ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข 10.ปฏิบัติตามกฎหมายกฎระเบียบเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติภัยต่างๆ และ11.ร่วมกันกำจัดขยะและลดขยะตามแนวคิดZero Waste เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม และ 12.สื่อสารต่อประชาชนให้ตระหนักถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะการอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวอีกว่า วธ.จะจัดกิจกรรมวันลอยกระทงในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหา กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีการแสดงทางวัฒนธรรม รวมถึงมีศิลปินที่มีชื่อเสียงร่วมรำวงและขับร้องเพลงภายในงาน และการสาธิตอาหารไทยขนมโบราณของชุมชนต่างๆโดยในส่วนภูมิภาค กระทรวงวัฒนธรรม ยังบูรณาการจัดงานใน พื้นที่ 5 เมืองอัตลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด และพื้นที่ 8 เมืองน่าเที่ยว ได้แก่ กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา ลำปาง นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ และภูเก็ต รวมถึงส่งเสริมการจัดประเพณีลอยกระทงทุกจังหวัดทั่วประเทศ
“โอกาสนี้ วธ. ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง ร่วมกันสืบสาน รักษา ประเพณีลอยกระทงให้คงคุณค่าความเป็นไทย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเพณีลอยกระทงอันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เป็น Soft Power เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ ผลักดันประเพณีลอยกระทงให้เป็น World Event เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก”น.ส.สุดาวรรณ กล่าว
ด้าน นายวีรพงศ์ พงศ์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของการจัดงานลอยกระทงของททท.ในปีนี้ได้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13-16 พฤศจิกายน ที่บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ททท.จะจัดกิจกรรมที่นำเสนอประเพณีลอยกระทงที่มีคุณค่าและสะท้อนถึงความรุ่งเรื่องที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของไทย โดยจะมีการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆมากมาย และการนำเสนอเอกลักษณ์ของพื้นที่ 5 เมืองอัตลักษณ์ รวมถึงรณรงค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลดการเกิดขยะจากการลอยกระทง
ด้าน นายจิระพงษ์ คูหากาญจน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ในส่วนของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ใช้วัสดุการทำกระทงจากธรรมชาติให้มากที่สุด เนื่องจากว่าขยะที่เกิดขึ้นจากการใช้วัสดุที่เป็นพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือแม้กระทั่งขนมปัง หากนำมาใช้ในการลอยกระทงจะทำให้เกิดสารพิษส่งผลให้น้ำเน่าเสียได้