เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองประธานกรรมการดำเนินโครงการ ในฐานะประธานกรรมการประสานงานการดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการจัดสร้างมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่อัญเชิญจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นผู้นำประกอบพิธี พร้อมด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทย และรัฐบาลจีน ได้เห็นชอบร่วมกันในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐาน ที่บริเวณมณฑลพิธี ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 รวมเป็นเวลา 73 วัน และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568โดยคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมออกแบบและก่อสร้างมณฑปประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว โดยผสมผสานศิลปะแบบจีนและไทย และเริ่มดำเนินการก่อสร้างมณฑป มีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
“รัฐบาลไทย และ จีน ได้ประสานการทำงานระหว่างกันอย่างใกล้ชิดในการดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในด้านการดูแลและการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุดตั้งแต่ขั้นตอนการการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากจีนมายังประเทศไทย การประกอบพิธีอัญเชิญ การจัดริ้วขบวนอัญเชิญมาประดิษฐานยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งขณะนี้ทางการจีนได้เดินทางมาติดตามการเตรียมความพร้อมกับคณะทำงานของไทย โดยเฉพาะการเตรียมพื้นที่ก่อสร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานพระบรมมาสารีริกธาตุในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว และในวันที่ 14 พ.ย.นี้ จะเดินทางไปที่ประเทศจีนเพื่อความพร้อมในด้านต่างๆ พร้อมทั้งหารือถึงการจัดเตรียมพิธีการทั้งในไทยและในประเทศจีนก่อนอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย สำหรับพระเขี้ยวแก้วนี้ ทางการจีน ได้เคยอัญเชิญไปประดิษฐานยังประเทศต่างๆ มาแล้ว 6 ครั้ง รวมทั้งได้เชิญมาประดิษฐานในไทยมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2545 ณ พุทธมณฑลในสมัยรัชกาลที่ 9 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญอันเป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีน จึงขอเชิญชวนประชาชนกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสมหามงคลของชาวไทย” นายชูศักดิ์ กล่าว