ศธ.เร่งยกระดับ PISA เตรียมจัดซัมเมอร์แคมป์ ดันเด็กไทยเก่งดิจิทัล-ดึงเด็กเข้าเรียนกว่า 3 แสน
เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมได้ติดตามโครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาตามโครงการประเมินนักเรียนระดับนานาชาติ หรือ ปิซา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีการจัดอบรมพัฒนาข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่านวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขตทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 445,624 คน ซึ่งตามปฏิทินระหว่างวันที่ 13 ก.พ.-17 มีนาคม จะมีการเตรียมความพร้อมนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประมาณ 531,919 คน ในการนำผลมาพัฒนาเติมเต็มนักเรียน ภาคเรียนที่ 1/2568 รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้แก่ครู และการจัดค่ายคอมพิวเตอร์ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนหรือซัมเมอร์แคมป์ เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้แบบเรียนได้ทุกที่ทุก
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้นำเสนอประเด็นท้าทายการพัฒนาคุณภาพผลลัพธ์ ด้านความฉลาดรู้ทางดิจิทัล Digital Literacy ในการประเมินปิซา 2025 ซึ่งนักเรียนที่มีคะแนนวิชาคณิตศาสตร์สูง จะเรียนรู้ด้านดิจิทัลได้ดี ส่วนประเทศไทยมีผลการวัดความฉลาดรู้ด้านดิจิทัล พบว่ามีปัญหาด้านการใช้เครื่องมือดิจิทัล ดังนั้นประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา ให้หนุนเสริมความฉลาดรู้ด้านดิจิทัลของผู้เรียน เช่น ส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณในระดับประถมศึกษา เน้นการคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ การวางแผน การวิเคราะห์ข้อมูล การผลิตสื่อการเรียนที่น่าสนใจ การเขียนโค้ด และสะเต็มศึกษา รวมถึงให้มีการฝึกประสบการณ์ของนักเรียนในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการสอบ ปิซา โดยการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ
“ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้รายงานการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษา หรือโครงการ THAILAND Zero Dropout ซึ่งข้อมูลเด็กวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา จำนวน 1,025,514 คน ซึ่งสามารถติดตามได้แล้วทั้งหมด 881,085 คน และในจำนวนนี้สามารถนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษา 327,484 คน และยังไม่ได้ติดตาม 144,429 คน ซึ่งถือเป็นการบ้านใหญ่ที่ศธ.จะต้องเร่งดำเนินการตามเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์”นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการแจกอุปกรณ์เสริมการสอนให้แก่นักเรียนในปีการศึกษา 2568 จำนวน 600,000 เครื่อง นั้น ขณะนี้กรมบัญชีกลางและศธ.กำลังทำงานร่วมกันอยู่ในขั้นของการจัดทำร่างขอบเขตงานหรือทีโออาร์ โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการใหญ่และใช้งบประมาณสูงทำให้ทางกรมบัญชีกลางอยากให้มีการจัดทำทีโออาร์ที่ถี่ถ้วนจึงจะต้องมีการปรับแก้เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นเมื่อขั้นตอนของการจัดทำทีโออาร์เสร็จสิ้นก็จะประกาศหาผู้จัดซื้อจัดจ้าง ศธ.พยายามจะแจกอุปกรณ์ดังกล่าวให้ทันภายในภาคเรียนที่ 1 วันที่ 16 พฤคภาคม แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่อาจมีความล่าช้าและไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ได้ทัน ซึ่งหากไม่สามารถจัดหาได้ทันในวันเปิดภาคเรียนที่ 1 นี้ ยืนยันว่านักเรียนจะได้การแจกอุปกรณ์เสริมภายในปีนี้อย่างแน่นอน