สพฐ. สั่งโค้ชฟุตซอล ออกราชการ ตั้งกก.สอบ จ่อฟันวินัยร้ายแรง ลั่นหากโรงเรียนเพิกเฉยโดนด้วย

สพฐ. สั่งโค้ชฟุตซอล ออกราชการ ตั้งกก.สอบ จ่อฟันวินัยร้ายแรง ลั่นหากโรงเรียนเพิกเฉยโดนด้วย

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า รณีครูโค้ชฟุตซอลโรงเรียนชื่อดัง กระทำอนาจารล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบโรงเรียนอย่างเคร่งครัดในกรณีเพิกเฉยไม่ตรวจสอบและรายงานมายังต้นสังกัด ยืนยันการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบราชการหากพบผิดวินัยร้ายแรงจริงคาดโทษสูงสุดแน่นอน

อ่านข่าว – รวบ ‘โค้ชฟุตซอล’ ร.ร.ดัง บังคับลูกศิษย์มีสัมพันธ์หมู่ ตั้งกล้องอัดคลิป ทำมาแล้ว 8 เดือน

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า จากกรณีข่าวล่าสุดที่ครูโค้ชโรงเรียนชื่อดังถูกรวบคาสนามฟุตซอลถูกจับกุมตัว จากข้อกล่าวหาข้อหากระทำอนาจารเด็ก และ พรากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร บังคับขู่เข็ญหรือชักจูงให้เด็กประพฤติมิชอบ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาความรุนแรงในสถานศึกษาเป็นอย่างมาก และจะปล่อยให้มีการกระทำเช่นนี้ซ้ำอีกไม่ได้

ADVERTISMENT

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการจึงดำเนินการอย่างเร่งด่วนกรณีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ขออย่าได้กังวลว่าต้องเป็นข่าวถึงจะทำงานไวกว่าเดิม เพราะถึงจะไม่เป็นข่าวแต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดไม่ว่าจะเป็นครูกับนักเรียน หรือครูกับครูก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดรวดเร็วเช่นกัน กรณีแบบนี้รอช้าไม่ได้เพราะส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกกระทำอย่างรุนแรง

ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงขั้นสูงสุด โดยดำเนินการทางวินัยให้ครูผู้ก่อเหตุ “ออกจากราชการไว้ก่อน” ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาให้ออกจากราชการในทันทีหากมีหลักฐานชัดเจน และให้โรงเรียนติดตามประเมินสภาพจิตใจนักเรียนผู้ประสบเหตุ พร้อมวางแนวทางการดูแลช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงประสานผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีและติดตามทุกระยะ”นายสิริพงศ์ กล่าว

ADVERTISMENT

นอกจากนี้จะสอบสวนโรงเรียนให้ครอบคลุมเช่นกัน ที่เพิกเฉยไม่รายงานและดำเนินการในช่วงเวลาที่เหตุเกิดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังต้นสังกัด และ ศธ.จะวางมาตรการเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือการล่วงละเมิดทางเพศซ้ำซากในสถานศึกษา

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบราชการและข้อกฎหมาย ผู้เกี่ยวข้องจะได้รับการสอบสวนอย่างจริงจังเกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่ายแน่นอน การเร่งดำเนินการจัดการที่เห็นชัดเจนเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก และสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน

“เราจะเดินหน้ายกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ครูต้องเป็นพื้นที่เซฟโซนของผู้เรียนสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคนในระบบการศึกษาไทย อยู่ในรั้วโรงเรียนอย่างอุ่นใจกลับบ้านไปอย่างมีความสุข” นายสิริพงศ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image