ศธ.ลงพื้นที่สงขลา ลุยแก้เด็กหลุดระบบ – เร่งปลดล็อกงบฯ อบจ. หนุนโรงเรียนเล็ก

ศธ.ลงพื้นที่สงขลา ลุยแก้เด็กหลุดระบบ – เร่งปลดล็อกงบฯ อบจ. หนุนโรงเรียนเล็ก

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่โรงเรียนสงขลาปัญญาพัฒนา จ.สงขลา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา พร้อมมอบนโยบายการจัดการเรียนการสอนในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.) นอกสถานที่ จ.สงขลา

นายสุรศักดิ์กล่าวว่า ในครั้งนี้ได้มาติดตามรับฟังการแก้ปัญหาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสงขลาภายใต้การทำงานตลอดระยะเวลา 1 ปีของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้เห็นว่าทุกหน่วยงานตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้เกิดเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นนโยบายลดภาระครู ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง โครงการสนับสนุนงบประมาณอาหารกลางวันของกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาส

ซึ่งถือว่าจังหวัดสงขลาบริหารจัดการศึกษาได้ดี หลังจากได้ตรวจเยี่ยมที่โรงเรียนสงขลาปัญญาพัฒนา ที่ถือเป็นศูนย์บ่มเพาะการเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สู่ความยั่งยืน ส่งเสริมทักษะการมีงานทำสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและโรงเรียนแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้เรียน ครู มีความรู้มีทักษะในด้านของอาชีพ นักเรียนสามารถนำไปประกอบอาชีพทั้งระหว่างเรียนและจบการศึกษาได้

ADVERTISMENT

นายสุรศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้รับฟังรายงานการจัดการศึกษาในพื้นที่สงขลา เพราะถือเป็นศูนย์จัดการศึกษาระดับภาคใต้ ซึ่งภาพรวมการวัดผลทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานโรงเรียนกลุ่มจังหวัดสงขลามีคะแนนสูงกว่าในกลุ่มภาคใต้และระดับประเทศ แต่กลับพบว่าในวิชาคณิตศาสตร์มีคะแนนทดสอบลดลงตลอดทุกปี 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กำลังวางแผนและเร่งผลักดันให้การเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อไป

ADVERTISMENT

“ทั้งนี้แม้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองใหญ่ มีโรงเรียนยอดนิยมจำนวนมาก แต่ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายังมีอยู่ ซึ่งเกิดจากสภาพเศรษฐกิจและภูมิสังคมของจังหวัดสงขลา จึงทำให้เกิดเด็กหลุดระบบการศึกษา โดยจังหวัดสงขลามีเด็กหลุดระบบการศึกษา 23,681 คน  และได้แก้ปัญหาด้วยการค้นหาและดึงเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบการรายงานตัวเลขเด็กที่หลุดระบบการศึกษา

โดยพบว่า ปัจจัยบางส่วนเกิดจากพื้นเพของครอบครัวประชาชนใน จ.สงขลา ประกอบอาชีพหาปลา และเด็กจะต้องออกไปหาปลาช่วยผู้ปกครอง ดังนั้นจึงเล็งที่จะทำโรงเรียนมือถือ ซึ่งจะเป็นโครงการที่สามารถให้เด็กเรียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสได้เข้าถึงระบบการศึกษาอย่างทั่วถึงในระหว่างการทำงาน และตอบโจทย์ในเรื่องของการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา” นายสุรศักดิ์กล่าว

นายสุรศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูนได้มีการทำเรื่องไปถึงกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อขอให้ทบทวนระเบียบ มท.ว่าด้วยเรื่องเงินอุดหนุนรายหัวของโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เนื่องจากระเบียบฉบับดังกล่าวกำหนดเงื่อนไขให้การสนับงบประมาณด้านการศึกษาของ อบจ.ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ นั้น โรงเรียนที่ อบจ.ให้การสนับสนุนจะต้องสมทบงบให้กับ อบจ. 25 เปอร์เซ็นต์

ซึ่ง ศธ.มองว่าในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กคงไม่สามารถหางบประมาณมาสมทบได้ตามจำนวนดังกล่าว เพราะโรงเรียนขนาดเล็กนั้นโดยปกติแทบจะไม่มีงบเงินอุดหนุนให้ใช้บริหารจัดการได้เพียงพอ ดังนั้นจึงมีความต้องการให้ มท.ทบทวนปลดล็อกเงื่อนไขในฉบับนี้ เพื่อให้ อบจ.ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการการศึกษาในโรงเรียนได้ เพราะมี อบจ.หลายแห่งอยากที่จะสนับสนุนเรื่องนี้ เช่น อบจ.นนทบุรี เป็นต้น

“ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวของ มท.ไม่ได้กำหนดใช้เฉพาะ ศธ. แต่กำหนดใช้กับทุกกระทรวงที่จะต้องการเงินอุดหนุนจากท้องถิ่น เช่น โรงพยาบาลที่ต้องการเงินอุดหนุนจาก อบจ.ก็จะต้องสมทบงบให้กับ อบจ. 25 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน แต่ในบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะหาเงินให้ได้เพื่อมาจัดทำโครงการ จึงอยากจะทำเรื่องไปยัง มท.ให้ปลดระเบียบดังกล่าวเพื่อการพัฒนาการศึกษา” นายสุรศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image