ศธ. ฉลองครบรอบ 133 ปี ย้ำปฏิรูปการศึกษา-ลดภาระครู เดินหน้าสู่ยุคดิจิทัล

ศธ. ฉลองครบรอบ 133 ปี ย้ำปฏิรูปการศึกษา-ลดภาระครู เดินหน้าสู่ยุคดิจิทัล

เมื่อวันที่ 1 เมษายน พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 133 ปี วันที่ 1 เมษายน2568 โดยมีนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ครูอาวุโส ผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร ศธ. เข้าร่วม

โดยพล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 133 ปี วันที่ 1 เมษายน 2568 นับเป็นวันสำคัญที่ทุกคนได้ร่วมระลึกถึงคุณค่าของการศึกษา ซึ่งหลักการสำคัญในการจัดการศึกษาตามนโยบายเรียนดี มีความสุข คือ จัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต ทั้งนี้ รัฐบาลได้วางกรอบการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ เริ่มตั้งแต่ระดับปฐมวัยให้มีคุณภาพมาตรฐาน มีการส่งเสริมทักษะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เน้นการพัฒนาความคิดวิเคราะห์และเหตุผล พร้อมทั้งนำใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสนับสนุนการศึกษา และการฝึกอบรมทักษะที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชน

” ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยีดิจิทัล และสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคนในทุกช่วงวัยให้มีความ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” เป็นสิ่งท้าทายสำคัญของ ศธ. ซึ่งการพัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ศักยภาพของผู้เรียน ถือเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างเท่าเทียม ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) การจัดให้มีโรงเรียนคุณภาพ การสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา และการพัฒนาระบบแนะแนวการเรียนและเป้าหมายชีวิต เป็นแนวทางที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาที่สำคัญการพัฒนาการศึกษาของประเทศให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล จำเป็นต้องมี “เครือข่ายการศึกษา”ที่แข็งแกร่ง ที่สามารถผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพ และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศได้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่“ รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าว

ADVERTISMENT

พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า สำหรับการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษา ที่มีสัญชาติไทย 767,304 คน จากความร่วมมือร่วมใจของชาว ศธ. สามารถติดตามได้แล้วกว่า 97 %  ผ่านโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” มีการนำนวัตกรรมโรงเรียนมือถือ (Mobile School) เชื่อมโยงการเรียนรู้กับชุมชน ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน สามารถเก็บหน่วยกิต ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน ให้โอกาสเด็กนอกระบบในการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาในทุกภูมิภาค จึงย้ำว่าเด็กไทยทุกคนต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันด้วยการ “ป้องกัน แก้ไข ส่งต่อ ติดตามดูแล” เมื่อเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว ต้องไม่หลุดจากระบบอีก ทั้งนี้ในปีต่อ ๆ ไป การติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาจะรับผิดชอบโดยฝ่ายปกครองในหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย เพื่อลดภาระให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทำหน้าที่หลักในการสอนเพียงอย่างเดียว

ADVERTISMENT

“การศึกษาไทยเดินทางมายาวนานถึง 133 ปี และยังคงต้องก้าวต่อไป พร้อมเผชิญกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับการศึกษาไทย เพื่อสร้างคนไทยที่มีความรู้และมีคุณภาพ การร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาการศึกษาไทยให้เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ศธ.จะเดินหน้าพัฒนาการศึกษา ร่วมใจในการปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ เพื่อสร้างคุณภาพ สร้างอนาคต สร้างสิ่งที่ดีให้กับคนไทยทุกคนและประเทศชาติสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก”รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าว

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ. กล่าวว่า ศธ. ได้สถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2435 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โดยมีชื่อเดิมว่า “กระทรวงธรรมการ” มีหน้าที่ในการจัดการพระศาสนา การศึกษาการพยาบาล และพิพิธภัณฑ์ ตลอดระยะเวลากว่า 133 ปี ศธ.ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงยุคปัจจุบันที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาในยุค Digital Transformation ยังคงทำหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมและกำกับดูแลการศึกษาถ่ายทอดความรู้ พัฒนาจิตใจ และสติปัญญาของผู้เรียนในทุกระดับ ทุกประเภท

ในการนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 133 ปี วันที่ 1 เมษายน 2568  ความว่าเนื่องในโอกาสครบรอบ 133 ปี วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 1 เมษายน 2568 ดิฉันขอส่งความระลึกถึง และความปรารถนาดีมายังคณะผู้บริหาร ข้าราชการ ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการทุกท่านที่ได้เสียสละ อุทิศทุ่มเทกำลังใจ กำลังกาย ในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการศึกษาของชาติอย่างเข้มแข็งตลอดมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยให้มีทักษะในการดำเนินชีวิตและพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสังคมยุคดิจิทัล โดยมุ่งเน้นการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งในด้านบุคลากรทางการศึกษา รูปแบบการเรียนการสอนที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระแก่ครูผู้สอนและเด็กนักเรียน รวมถึงการพัฒนาระบบการศึกษาทั้งในและนอกระบบ ที่มีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคลซึ่งจะเป็นการเอื้ออำนวยให้เด็กไทยได้เรียนรู้ในสิ่งที่อยากเรียน ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างทักษะเดิมและเพิ่มพูนทักษะใหม่ ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เกิดความคิดสร้างสรรค์มีความรู้รอบ รู้กว้าง รู้เท่าทันนวัตกรรม และมีความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งจะมีส่วนทำให้เด็กไทยสามารถออกแบบอนาคตได้ด้วยตนเอง และเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการสร้างคุณประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมและประเทศชาติสืบไปในโอกาสนี้ดิฉันขออันเชิญอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโปรดประทานพรแก่คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งครอบครัว ให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีพลังใจ และกำลังกายที่เข้มแข็ง มีสุขภาพใจ สุขภาพกายสมบูรณ์แข็งแรงประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ทุกประการโดยทั่วกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image