หึ่ง!’อว.’เล็งตั้งกรมพัฒนาอุดมศึกษา ลดระดับเหลือซี10 ทำหน้าที่คุมมหา’ลัย อดีตเลขากกอ.ค้าน
นายภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)จะมีการปรับโครงสร้าง ขอแบ่งส่วนราชการเพิ่มเติม ตั้ง “กรมพัฒนาอุดมศึกษา” ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกรมขึ้น เพื่อดูแลมหาวิทยาลัย เนื่องจากปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร โดยส่วนตัวเห็นใจที่อว.ต้องทำหน้าที่หลายอย่างและเข้าใจถึงภารกิจที่สำคัญ แต่ที่ผ่านมาอุดมศึกษา หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เคยมีการดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัย ที่เป็น ทบวงมหาวิทยาลัย จนเปลี่ยนสถานะมาเป็น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ก็ยังถือว่ามีการทำงานที่ใกล้ชิด แต่พอสกอ.ย้ายมาอยู่ในดูแลของอว. และอยู่ในอำนาจของปลัดอว. ซึ่งก็มีภาระงานหน้าที่อื่นๆที่ต้องดูแล ทำให้ปัจจุบันสกอ.กลายเป็นหน่วยงานที่ไม่ค่อยมีทิศทาง ส่งผลให้ไม่มีการสร้างงานในเชิงนโยบายหรือแม้แต่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในอุดมศึกษาอย่างเข้มข้นจริงจัง
นายภาวิช กล่าวต่อว่า ดังนั้นปัญหานี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข แต่การจัดตั้งกรมพัฒนาอุดมศึกษา เป็นเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย และไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ควรทำ ในอดีตมหาวิทยาลัยได้รับความสำคัญ หน่วยงานที่จะทำหน้าที่ดูแลต้องมีศักยภาพสูงในสมัยที่เป็นทบวงมหาวิทยาลัย บ่อยครั้งรัฐมนตรีทบวงจะควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นกลไกสำคัญช่วยแก้ปัญหาประเทศ
“การเปลี่ยนให้ผู้ดูแลมหาวิทยาลัยกลายมาเป็นหน่วยงานระดับกรมผมว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ถือเป็นการลดศักดิ์ของหน่วยงานที่ช่วยแก้ไขปัญหาระดับประเทศลงมา รวมไปถึงจะเป็นการลดขั้นของผู้ดูแลจากระดับปลัด หรือ เลขาธิการ ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารระดับ 11 ให้เหลือแค่อธิบดีกรมระดับ 10 ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะถือว่ามีตำแหน่งเทียบเท่ากับอธิการบดีฯ ดังนั้นการให้อธิบดีระดับเดียวกันมาสั่งการจึงอาจเป็นเรื่องแปลก ทั้งนี้หากจะมีการปรับโครงสร้างจริง ควรให้สกอ. กลับมามีบทบาท โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่มาจากการสรรหาทำหน้าที่กำกับดูแล เช่นเดียวกับศธ. ที่มีผู้บริหารองค์กรหลักระดับเดียวกันถึง 4 คน”นายภาวิช กล่าว
นายภาวิช กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ควรจะกำหนดด้วยว่า ผู้ที่จะมาเป็นกกอ.จะต้องมีประสบการณ์เป็นอธิการบดีบริหารมหาวิทยาลัย เพื่อให้มีความเข้าใจและสามารถคุยกับมหาวิทยาลัยต่างๆได้สะดวก เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงอุดมศึกษาด้วยกัน ทั้งนี้ถ้ากรมพัฒนาอุดมศึกษาเกิดขึ้นจริงจะเกิดผลเสียต่อมหาวิทยาลัยแน่นอน เนื่องจากการได้มาของอธิบดีจะมาจากการไต่เต้าของข้าราชการภายใน ไม่มีประสบการณ์ ไม่ได้มีอาวุโสหรือบารมีที่จะไปพูดคุยหารือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งหมดนี้ คือความเสียหายเบื้องต้นที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน