ศธ.เร่งลดภาระงานครูให้มากขึ้น หลังกรณี “ครูมัท” เสียชีวิต พร้อมเดินหน้าลดวัฒนธรรมองค์กรที่กดดันครู
กรณี น.ส.อนุสรา หรือ ครูมัท ครูวัย 39 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านพัก อ.ลำปลายมาศ โดยทิ้งจดหมายลาถึง 5 หน้ากระดาษ ซึ่งหน้าสุดท้ายเขียนถึงปัญหาการทำงานที่ตึงเครียดจนนำไปสู่การตัดสินใจจบชีวิตตนเองนั้น
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ทางศธ.ขอแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกการเสียชีวิตทำให้ต้องสูญเสียบุคลากรที่มีความสำคัญในการศึกษา โดยในกรณีนี้เกิดจากภาระงานจนส่งผลให้เกิดความเครียดจนนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งทางว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเข้าไปสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและมีกำหนดให้สรุปผลการสอบสวนภายใน 7 วัน ทั้งนี้การเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ศธ.ตระหนักและรับรู้ว่าจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกครั้ง
“การลดภาระงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นนโยบายหลักของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ.ซึ่งทางศธ.เองก็ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งการ ยกเลิกเวรครู การจัดหานักการภารโรง การแก้ไขหนี้สินครู และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดภาระงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อลดภาระบุคลากรทางการศึกษา อย่างไรก็ตามเรื่องของครูธุระการในอดีตโรงเรียนในสังกัดศธ.เคยมีครูธุรการครบทุกแห่ง แต่ด้วยการจัดกำลังพลของภาครัฐส่งผลให้โดนลดอัตรากำลังในส่วนนี้ไป ในปัจจุบันจึงไม่มีตำแหน่งนี้ในทุกโรงเรียน”นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ศธ.ได้พยายามของบประมาณเพื่อมาจัดสรรตำแหน่งที่ขาดออกไป แต่ก็ไม่ได้รับงบประมาณในส่วนนี้ แต่เหตุผลด้านงบประมาณไม่ใช่ข้ออ้างที่ศธ.จะนำมาใช้เพื่อหลบเลี่ยงปัญหานี้ โดยในปัจจุบันศธ.ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้ ได้มีการพยายามและสนับสนุนการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัล และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เข้ามาใช้เพื่อช่วยโรงเรียนในการจัดการงานด้านเอกสารธุรการ ส่วนเรื่องการเพิ่มอัตรากำลังพลด้านนี้ จะต้องมีการหารือคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อจัดหากำลังพลเพิ่มเติม แต่หากเป็นการจัดหากำลังพลในลักษณะของจ้างเหมาบริการ ก็จะเป็นการใช้งบประมาณเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะต้องของบประมาณดังกล่าวไปที่รัฐบาล
“ในที่ประชุมประสานภารกิจก็ได้มีการหารือว่าความพยายามในการลดภาระของศธ.ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ซึ่งเราจะต้องแก้ไขและพยายามทำให้เกิดการลดภาระมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในที่ประชุมได้เล็งเห็นถึงปัญหาวัฒนธรรมองค์กร และ วัฒนธรรมของผู้บริหาร ที่ส่งผลให้เป็นภาระต่องานของครู ซึ่งในส่วนนี้ศธ.จะลงลึกถึงปัญหาให้มากยิ่งขึ้นและทำควบคู่ไปกับการลดภาระจากเนื้องาน ฉะนั้นศธ.จะผลักดันทำให้เกิดการลดภาระมากยิ่งขึ้นกว่าในปัจจุบัน”นายสุรศักดิ์ กล่าว