วอนการเมืองส่งนักพัฒนานั่ง’รมว.ศธ.’ ห่วงรัฐบาลเวลาน้อย-เร่งเดินหน้าปฏิรูป

วอนการเมืองส่งนักพัฒนานั่ง’รมว.ศธ.’ ห่วงรัฐบาลเวลาน้อย-เร่งเดินหน้าปฏิรูป

นายณรินทร์ ชำนาญดู นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)และรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.ลาออกกลางคันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับข้อเสียที่เกิดขึ้นคือ แผนงานที่รัฐมนตรีคนทำไว้จะหยุดชะงักหรือถึงขั้นถูกยกเลิก หากมีรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันทรัพยากรต่างๆที่ใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายก็จะถูกปรับเปลี่ยนและขาดความต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรใหม่ที่เริ่มนำร่องในปีนี้ นโยบายเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime ก็อาจจะถูกหยุดลงได้

“ทั้งนี้การเปลี่ยนรัฐมนตรีกลางคันยังสร้างความไม่มั่นใจต่อนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพราะความไม่แน่นอนทางนโยบายอาจทำให้เกิดความสับสน ขาดขวัญและกำลังใจที่ต้องถูกเปลี่ยนการทำงาน รวมไปถึงยังก่อให้เกิดปัญหาสำหรับการแก้ไขที่เร่งด่วน เช่น เรื่องของครูมัท ที่ทำการปิดชีวิตตัวเองเนื่องจากภาระงาน การเปลี่ยนรัฐมนตรีกลางคันก็อาจส่งผลให้เรื่องนี้ไม่ได้ถูกแก้ไขอย่างเร่งด่วน” นายณรินทร์ กล่าว

นายณรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อดี ถือเป็นการเปิดทางให้ผู้มีศักยภาพคนใหม่เข้ามาทำงานแทน ซึ่งหากได้ผู้ที่มีความเข้าใจต่อระบบการศึกษาของไทย ก็จะสามารถกำหนดทิศทางนโยบายที่ดีได้ รวมไปถึงปรับเปลี่ยนนโยบายเดิมที่อาจจะยังไม่เป็นที่ยอมรับหรือไม่เหมาะสม ทั้งนี้การลาออกยังเป็นการกระตุ้นให้สังคมได้หันเข้ามาเห็นถึงปัญหาของระบบการศึกษาในปัจจุบันและอาจส่งผลไปยังพรรคการเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบให้ส่งผู้ที่มีความสามารถเข้ามาทำงานได้อย่างเหมาะสม สำหรับคุณสมบัติของรัฐมนตรีคนใหม่ ควรเป็นผู้ที่ยึดเด็กนักเรียนเป็นศูนย์กลางของทุกนโยบาย ไม่ใช่เพียงในเชิงวาทกรรม แต่ต้องสะท้อนในโครงสร้าง เนื้อหา และกระบวนการทำงานทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ เด็กไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีโอกาส มีความสุข และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“รัฐมนตรีว่าการศธ.คนใหม่ควรมีภาพลักษณ์เป็น นักพัฒนาเด็ก มากกว่า นักการเมืองต้องเป็นผู้ฟังเสียงของเด็ก ครู และชุมชน ออกแบบระบบการศึกษาที่เข้าใจความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าทำงานทันที โดยไม่เสียเวลาศึกษางานนานเกินไป เพราะเวลาของรัฐบาลชุดปัจจุบันเหลือไม่มากนัก รัฐมนตรีคนใหม่ควรเร่งปรับระบบการเรียนรู้ให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับชีวิตจริงมากขึ้น ลดการเรียนแบบท่องจำ และเน้นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21เปิดทางเลือกให้เด็กได้เรียนตามความถนัด กระจายทรัพยากรอย่างเป็นธรรมไปยังโรงเรียนขนาดเล็ก พื้นที่ห่างไกล และเด็กกลุ่มเปราะบางให้ได้รับอุปกรณ์การเรียน ครู และอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง อีกภารกิจสำคัญที่รัฐมนตรีใหม่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ควบคุมการก่อหนี้ใหม่ ส่งเสริมวินัยทางการเงินในระยะยาว”นายณรินทร์ กล่าว

ADVERTISMENT