นักวิชาการสิ่งแวดล้อม สร้างฝายดักตะกอนแม่น้ำกกจำเป็นต้องทำ ขณะเดียวกัน รัฐต้องไปเจรจาชนกลุ่มน้อยหยุดทำเหมือง-หยุดปล่อยโลหะหนักลงน้ำ
วันที่ 23 พฤษภาคม นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องการสร้างฝายดักตะกอนในแม่น้ำกก เพื่อดักตะกอน และโลหะหนักที่ปนเปื้อนสารหนูและโลหะหนัก อันเกิดจากการทำเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า
ฝายดักตะกอนชั่วคราวในลำน้ำกกมีความจำเป็น ขณะที่ไปเจรจากับเพื่อนบ้าน..ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ทั้งนี้ ในต่างประเทศที่มีสารโลหะหนักปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำซึ่งอาจจะมาจากเหมืองแร่หรือโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสียที่มีโลหะหนักลงมา
มาตรการป้อง กันเบื้องต้นคือ การทำฝายดักตะกอนชั่วคราวกั้นในแหล่งน้ำนั้นก่อนที่จะน้ำ ไหลเข้าสู่ชุมชนโดยวัสดุที่ทำฝายดักตะกอนส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหิน ทรายละเอียด ทราบหยาบ ซีเมนต์ จะมีประสิทธิภาพในการดักตะกอนจากท้องน้ำถึง 80%สามารถกรองโลหะหนักทั้งตะกั่วหรือสารหนู ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอนุ ภาคโดยรวมกับตะกอนดินโคลนมาก กว่า 80%และมีบางส่วนที่เป็นสารละ ลายหรือคอลลอยด์ไม่เกิน20%ที่อาจหลุดลอดออกมา
นายสนธิ ระบุว่า ดังนั้นการติดตั้งฝายดักตะกอนชั่ว คราวในแม่น้ำกกฝั่งไทยจึงเป็นมาตร การหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากการปนเปื้อนของสารโลหะหนักที่มาทางน้ำจากฝั่งพม่าได้เบื้องต้น ในขณะที่รัฐบาลจะต้องไปเจรจาให้ชนกลุ่มน้อยให้หยุดการทำเหมืองแร่ทอง คำหรือแร่หายากหรือทำโดยไม่ให้มีการปล่อยสารโลหะหนักลงแม่น้ำกกในฝั่งพม่าหรือแม่น้ำสายอีกต่อไป
“สำหรับตะกอนดินโคลนที่ปนเปื้อนสารโลหะหนักหน้าฝายดักตะกอนจะต้องมีการดูดหรือตักเอาไปกำจัดโดยไปฝังกลบอย่างปลอดภัยหรือ Secured Landfill ต่อไป ทั้งนี้ การออกแบบฝายดักตะกอน ภาครัฐจะต้องออกแบบให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางน้ำน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้”นักวิชาารสิ่งแวดล้อม ระบุ